ข่าวเด่น ข่าวร้อนวันนี้ : กรุงเทพธุรกิจ

14 พฤศจิกายน 2552

ฐานเศรษฐกิจ : ความน่าเชื่อถือ 'ทักษิณ' ลด

ความน่าเชื่อถือ 'ทักษิณ' ลด - กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ ฐ.Blogger - โอฬาร สุขเกษม

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นับวันความน่าเชื่อถือกลับลดลง เพราะยิ่งเคลื่อนไหวภาพที่ออกมากลับ "ติดลบ" มากกว่าเดิม อย่างล่าสุดให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ออนไลน์ประเทศอังกฤษ และหลังเผยแพร่ออกมาแล้ว ก็ต้องออกมาแก้ตัวว่า สื่อรายงานผิดพลาด บิดเบือนคำให้สัมภาษณ์

ขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์ออนไลน์ "เดอะ ไทม์ส ออนไลน์" ได้ตีพิมพ์เพิ่มเติมทันควัน โดยนำเอาสิ่งที่ได้สัมภาษณ์มาลงตีพิมพ์ทั้งหมด ชนิดว่าไม่ต้องกรองกันละ เพื่อยืนยันว่าการรายงานข่าวนั้นเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ใครผิดถูกก็ให้อ่านบทสัมภาษณ์เอาเอง ซึ่งก็ไม่กี่ครั้งหรอกที่จะได้เห็นการชี้แจงของสื่อหรือการตอบโต้ของสื่อด้วยวิธีการนี้ โดยเฉพาะสื่อต่างประเทศ

เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2552 "เดอะ ไทม์สออนไลน์ของอังกฤษ ได้เผยแพร่ข่าวคำสัมภาษณ์ระหว่างนายริชาร์ด ลอยด์ แพร์รี บรรณาธิการข่าวเอเชีย ที่บินไปสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเนื้อหาที่นำมาตีพิมพ์พาดพิงและล่วงละเมิดองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ รวมถึงสถาบันกษัตริย์ของไทย ทำให้บ่ายวันเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องออกมาแถลงข่าวอ้างว่า คำให้สัมภาษณ์ของเขาถูกบิดเบือน และสุดท้ายสื่อออนไลน์ก็รุกกลับโดยนำคำให้สัมภาษณ์มาตีพิมพ์ ซึ่งน่าจะส่งผลให้ความเชื่อถือของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรลดลงไปได้

ลำพังเรื่องสมเด็จฮุน เซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชาแต่งตั้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องคำพิพากษาจำคุก 2 ปี เป็นที่ปรึกษารัฐบาลกัมพูชาและที่ปรึกษาส่วนตัว ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 รัฐบาลก็ตึงเครียดอยู่แล้ว จู่ๆยังไปให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศเยี่ยงนี้ ก็เท่ากับโหมกระพือความไม่น่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นมาอีก

เช้าวันอังคารที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงกรุงพนมเปญ ตามคำเชิญนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจให้แก่รัฐบาลและที่ปรึกษาส่วนตัว โดยวันที่ 12 พฤศจิกายน 2552 จะเดินทางไปปาฐกถาพิเศษให้ผู้บริหารกัมพูชาฟัง ซึ่งท่าทีของรัฐบาลไทยต่อเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ก็ต้องติดตามอย่างกระชั้นชิด

สิ่งที่รัฐบาลไทยได้ดำเนินการในเช้าวันอังคาร คือ ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีมติให้ยุติการเจรจาความเข้าใจเบื้องต้น(MOU)ระหว่างไทยกับกัมพูชาไว้ก่อน ขณะเดียวกันอัยการสูงสุดและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทย-กัมพูชา

ส่วนความคิดเห็นของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ยังมีมุมมองที่ดีต่อกัน และพยายามแยกเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล ในขณะที่นักธุรกิจไทยพยายามมองเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเชิงบวก และไม่อยากให้ความสัมพันธ์เลวร้ายลงมากกว่านี้

ทิศทางที่เกิดขึ้นขณะนี้เราได้เห็นความพยายามที่จะเปิดเกมรุก โดยหาความร่วมมือกับต่างประเทศเพื่อบ่อนทำลายความมั่นคงของไทย ขณะที่ภายในประเทศคนไทยก็มีความคิดแตกแยกกันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ารัฐบาลยังดำเนินการต่อไปได้ เพราะยังมีความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน หาได้แตกแยกอย่างที่หลายคนพยายามทำไม่ ความจริงแล้วคนไทยต้องยอมรับกับทุกสภาพที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อเอกราชและศักดิ์ศรีของประเทศ น่าเสียดายที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เคลื่อนไหวแต่ละครั้ง ดูจะตรงกันข้ามกับความนึกคิดของคนไทยไปทั้งหมด

ที่มา จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2,478 12 พ.ย. - 14 พ.ย. 2552

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

 

ASTV ผู้จัดการ News

กรุงเทพธุรกิจ - ข่าวหน้าแรก

เกาะติดสื่อ ตามข่าวร้อน Copyright © 2009 WoodMag is Designed by Ipietoon for Free Blogger Template