Suthichaiyoon.com : "สมศักดิ์"ร่อนจดหมายเปิดผนึกชี้สัญญาณรัฐบาลนับถอยหลัง โวยนายกฯ-ปชป.แก้ รธน.เขียนด้วยมือลบด้วยเท้า ทำตัวเป็นอุปสรรคแทนที่จะช่วยผลักดัน แฉละเอียดยิบข้อตกลงร่วมจัดตั้งรัฐบาล เหน็บอย่าเห็นคนอื่นทำเลวหมด
จาก มติของกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ไม่ร่วมลงชื่อยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามที่เคยตกลงกับพรรคร่วมรัฐบาล ได้กลายเป็นประเด็นร้อนที่ทำให้แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลออกมาแสดงความไม่พอใจ ปชป.ในฐานะพรรคแกนนำที่ไม่รักษาสัญญา
ล่าสุด วานนี้ (27 ม.ค.) นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ร่อนจดหมายเปิดผนึกถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เรื่อง การแก้ไขรัฐธรรมนูญเขียนด้วยมือแล้วอย่าลบด้วยเท้า โดยแจกแจงเหตุการณ์ต่างๆ 8 ประเด็น ตั้งแต่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยมีข้อตกลงเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญตั้งแต่ต้น
ในจดหมายเปิดผนึก ระบุว่า พรรคร่วมรัฐบาลตกลงจะร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 2 มาตรา คือ มาตรา 190 และ 94 ขณะที่ ปชป.ได้มีมติเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ว่าจะไม่เข้าร่วมในการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ เขาเห็นว่ามีบางเรื่องต้องชี้แจงให้นายอภิสิทธิ์ รับทราบ
1.การเข้าร่วมรัฐบาลโดยมี ปชป.เป็นแกนกลาง ก่อนการจัดตั้งรัฐบาลได้พูดถึงข้อจำกัดที่จะทำให้การทำงานไม่ราบรื่น หนึ่งในนั้นคือเรื่องรัฐธรรมนูญ โดยนายกฯ ได้เดินสายเพื่อขอความเห็นชอบและตกลงร่วมกันเรื่องการทำงานหนึ่งในนั้นมีการ แก้ไขรัฐธรรมนูญรวมอยู่ด้วย
2.ต่อมาพรรคฝ่ายรัฐบาลหารือกันที่บ้านนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ (แกนนำ ปชป.และอดีตเลขาธิการนายกฯ) ได้ตกลงร่วมกันว่าจะดำเนินการในวิธีต่างๆ เพื่อพูดคุยถึงมาตรการต่างๆ ให้สังคมเกิดสันติสุขและคืนสู่ปกติโดยเร็ว รวมทั้งประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายกฯ เห็นด้วยจนถึงขั้นให้พรรคร่วมรัฐบาลสรุปประเด็นที่ต้องการแก้ไขเสนอมาภายใน 1 สัปดาห์
3.หลังจากนั้นนายกฯ ได้ใช้เวทีรัฐสภาเพื่อหาแนวทางสร้างความสมานฉันท์ จึงมีการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ขึ้นมาจนนำมาซึ่งข้อสรุปร่วมกัน 6 ประเด็น 4.นายกฯ และพรรคร่วมรัฐบาลหารือกันอีกครั้งที่บ้านพิษณุโลก เห็นว่าการจะแก้รัฐธรรมนูญทั้ง 6 ประเด็น น่าจะสอบถามประชาชนผ่านกระบวนการประชามติ
5.การพบปะหารือของ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเป็นระยะมีการสอบถามความคืบหน้า แต่ทั้งหมดตกอยู่ในภาวะสุญญากาศ พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรคเข้าใจดีว่าควรรอ พ.ร.บ.ประชามติให้มีผลเสียก่อน การพบกันของ 6 พรรคร่วม เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2552 ซึ่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นตัวแทน ปชป. ที่ประชุมเห็นว่าน่าจะนำ การศึกษาของคณะกรรมการสมานฉันท์บางประเด็นมาพิจารณาก่อน โดยไม่ต้องรอการลงประชามติ คือการแก้มาตรา 190 และ 94 โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม จะไม่แก้ไขเพื่อประโยชน์ส่วนตัวโดยเด็ดขาด ที่สำคัญคือ จะต้องไม่เป็นจุดเริ่มของความแตกแยกครั้งใหม่ หรือขยายรอยร้าวเพิ่มอีก ซึ่งนายสุเทพ รับปากจะนำไปหารือในพรรค แต่ก็ไม่คืบหน้า
พรรคร่วมทั้ง 5 เข้าใจดีว่าการตัดสินใจของ ปชป.ต้องรอมติของพรรค และตระหนักดีว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นจำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควร ในขณะที่ระยะเวลาของสภาเหลืออีกปีเศษใกล้หมดวาระ หากปล่อยเวลาออกไปคงไม่อาจดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ ในระยะแรกทั้ง 5 พรรคจะรวบรวมรายชื่อสมาชิกเพื่อเสนอญัตติต่อรัฐสภาไปก่อน โดยจะไม่รอมติของ ปชป.
6.นายกฯ เคยพูดไว้หลายครั้งว่าพร้อมที่จะเลือกตั้งใหม่ พร้อมที่จะยุบสภา ถ้าหากปัญหาเศรษฐกิจสามารถแก้ไขได้ลุล่วง กติกาหรือรัฐธรรมนูญเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ทุกฝ่ายสามารถหาเสียงได้ในทุกพื้นที่ แต่ ณ ขณะนี้นายกฯ ทำเหมือนกับไม่พยายามเดินไปถึงจุดนั้น ปชป.ทำตัวไม่ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองพูด แทนที่จะช่วยกันผลักดัน กลับกลายเป็นอุปสรรคที่สร้างปัญหาให้เสียเอง วันเวลาและวาระการดำรงตำแหน่งของรัฐบาลจึงเหลืออยู่น้อยเหลือเกินหากจะทำให้ ได้ตามที่นายกฯ เคยปรารภไว้ และวาระที่เหลืออยู่น้อยนี่เองจึงเป็นเสมือนหนึ่งสัญญาณบอกให้รัฐบาลรู้ว่า เรากำลังเริ่มต้นนับถอยหลัง
7.การที่คนของ ปชป.พูดว่าการยื่นญัตติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นการยื่นเพื่อ ประโยชน์ของนายบรรหาร ศิลปอาชา นายเนวิน ชิดชอบ หรือใครบางคน ถือเป็นคำพูดที่หมิ่นน้ำใจและดูถูกดูแคลนกันเกินไป ถามว่าหากการแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 2 มาตรานี้สำเร็จ ใครจะได้อะไรบ้าง ที่สำคัญยังเท่ากับดูแคลนคณะกรรมการสมานฉันท์ เพราะประเด็นที่จะขอแก้ไขมาจากข้อสรุปของคณะกรรมการที่ถือว่าเป็นตัวแทนของ สังคม การกระทำเช่นนี้จึงยากที่จะยอมรับได้
8.จริงอยู่ที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของสภา แต่เมื่อจุดเริ่มต้นเราเคยเห็นตรงกัน เราเคยคิดเหมือนกัน จึงต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าอะไรที่ทำให้เราคิดต่างกัน
นายสมศักดิ์ ยังระบุตอนท้ายด้วยว่า เขาเคารพในการตัดสินใจของพรรคการเมือง และการตัดสินใจของ ปชป. เพียงแต่อย่าเห็นในสิ่งที่คนอื่นทำเลวทั้งหมด ใช้ไม่ได้ทั้งหมด แต่ถ้าเป็นตัวเองทำแม้จะเป็นเรื่องเดียวกัน กลับใช้ได้ทั้งหมด ทำดีทั้งหมด เราเป็นนักการเมือง เราเป็นคนอาสาประชาชนเพื่อมาทำงานการเมือง หวังจะเปลี่ยนแปลงการเมืองให้ดีขึ้น แต่ทั้งหมดนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากเรา “เขียนด้วยมือแล้วลบด้วยเท้า” เช่นวันนี้
"ชุมพล" เผยร่างแก้ รธน.เสร็จแล้ว
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า เวลานี้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เตรียมจะยื่นญัตติสู่สภา ฉบับต้นร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมี 2 ประเด็น ตามที่เคยแถลงข่าว และไม่มีการสอดไส้ แก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรเพิ่มเติมเด็ดขาด ซึ่งจากนี้ไปก็จะเป็นขั้นตอนที่จะให้สมาชิกตรวจสอบเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไข ให้สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งห้วงระยะเวลาตรงนี้ อาจกินเวลาประมาณ 1-2 อาทิตย์ ก็น่าจะเรียบร้อยและยื่นญัตติซึ่งเป็นขั้นตอนแรกของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนขั้นตอนที่ 2 ในการอภิปรายก็ต้องไปฟังว่าสมาชิกมีความเห็นอย่างไร จากนั้นจึงจะสู่ขั้นตอนที่ 3 ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย
ข่าว แก้ไขรัฐธรรมนูญ ข่าวการเมือง จาก Suthichaiyoon.com
ข่าวเด่น ข่าวร้อนวันนี้ : กรุงเทพธุรกิจ
28 มกราคม 2553
"สมศักดิ์"ร่อนจม.เปิดผนึก โวยนายกฯ-ปชป."ลบด้วยเท้า"เรื่อแก้รธน.
Author: Admin.
| Posted at: 13:02 |
Filed Under:
ข่าวการเมือง,
รัฐธรรมนูญ,
Suthichaiyoon.com
|
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 comments:
แสดงความคิดเห็น