กาแฟดำ - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : น่าสนใจว่าพาดหัวหนังสือพิมพ์ กรณีจะเลิกหวยออนไลน์ของรัฐบาลนั้น คำขู่ของเอกชน เรื่องจะฟ้องเรียกร้องค่าเสียหาย เป็นประเด็นใหญ่กว่า
การยืนยันว่าเรื่องใต้ดินไม่ควรจะกลายเป็นเรื่องบนดิน เพียงเพราะต้องการจะหาเงินเข้ารัฐ
ยิ่งน่าสนใจว่า ทำไม นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงเพิ่งจะตัดสินใจทบทวนเรื่อง "หวยออนไลน์" ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เดินมาถึงขั้นที่ว่าจ้างเอกชนให้ส่งของ และช่วยบริหารโครงการแล้ว
แต่ที่แน่ๆ ก็คือว่า ผมเชื่อเต็มร้อยว่าการรณรงค์ให้สังคมไทยลดอบายมุขนั้น ไม่ใช่เรื่องกระทบความมั่นใจของเอกชนต่อประเทศไทย และสัญญาใดๆ ที่ลงนามไปแล้วนั้น หากพบภายหลังว่ามีปัญหาที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำไม่ได้ ก็ย่อมอยู่ในวิสัยที่จะบอกเลิกหรือระงับ โดยที่ฝ่ายบอกเลิกจะต้องทำตามสัญญาของการชดเชย หรือตอบแทนทางใดทางหนึ่ง
ดังนั้น เมื่อตัวแทนบริษัทล็อกซเล่ย์ ประกาศว่าหากรัฐบาลยกเลิกสัญญานี้ ก็จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย บ้างก็บอกว่าสามพันล้านบาท บ้างก็บอกว่าหากคำนวณความเสียหายอนาคตแล้ว อาจจะเรียกร้องให้ชดเชยถึงหมื่นล้านบาท
ผมอ่านแล้วไม่ได้ตื่นเต้นไปด้วย ตรงกันข้ามกลับเห็นว่าประเด็นหลัก ไม่ได้อยู่ที่เรื่องเอกชนฟ้องร้องรัฐบาล หากแต่อยู่ที่ว่านายกฯ จะแสดงภาวะผู้นำอย่างจริงจัง และตัดสินใจอย่างชัดเจนว่า จะไม่ยอมให้สิ่งผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมาย เพียงเพราะมีข้ออ้างว่า "ยังไงๆ คนไทยก็เลิกเล่นหวยไม่ได้"
ความจริง หากนายกฯ จะขอร้องให้เอกชนที่ลงนามในสัญญาว่าจ้างทำของ หรือว่าจ้างบริหารให้ฟ้องร้องศาลตามกระบวนการ ก็ย่อมจะทำได้ เพราะจะเป็นการเปิดโอกาสให้กระบวนการยุติธรรม พิจารณาเหตุผลว่าด้วยศีลธรรมและเศรษฐกิจ ซึ่งน่าจะกลายเป็นคดีตัวอย่างอันควรศึกษาในประวัติศาสตร์ด้วยซ้ำไป
พูดง่ายๆ คือ หากตกลงกันไม่ได้เรื่องชดเชย นายกฯ ก็ควรจะขอร้องให้เอกชนฟ้องรัฐบาล เพื่อความโปร่งใสกระจ่างชัด เพราะทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องเงินภาษีประชาชนทั้งสิ้น
และนายกฯ อภิสิทธิ์ไม่ควรจะหยุดแค่ระงับโครงการหวยออนไลน์ แต่ควรจะใช้จังหวะนี้กระตุ้น ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ให้ลุกขึ้นมารณรงค์ต่อต้านการพนัน และอบายมุขทุกรูปแบบอย่างพร้อมเพรียงและต่อเนื่อง
สังคมไทยได้ยอมจำนนต่ออิทธิพลของอบายมุขมามากเกินพอแล้ว ถึงขั้นที่นักการเมืองและข้าราชการสามารถอ้างว่า "คนไทยติดการพนันจนโงหัวไม่ขึ้น" เพื่อทำให้สิ่งผิดกฎหมายทั้งหลายทั้งปวงกลายเป็นเรื่องถูกกฎหมาย
หากคนขนาดนายกรัฐมนตรียังยอมรับว่าคนไทยแก้นิสัยเรื่องอบายมุขไม่ได้ เราจะหวังให้คนหนุ่มสาวมีความมุ่งมั่นที่จะปฏิเสธอบายมุขอย่างจริงจังได้ อย่างไร
สังคมไทยถูกมอมเมาเรื่องอบายมุข จนกลายเป็นแหล่งก่ออาชญากรรม เป็นต้นเหตุแห่งความล้าหลัง และเป็นสาเหตุของปัญหาสังคมทั้งหลายทั้งปวง เพราะเราขาดนักการเมืองที่กล้าหาญ และมีภาวะผู้นำเพียงพอที่จะปลุกระดมคนทั้งชาติให้ต่อต้านความชั่วร้ายมาตลอด
ต้องไม่ลืมว่าการต่อต้านการพนัน และอบายมุขทุกรูปแบบเป็น "นโยบายสังคม" ที่สำคัญยิ่งของรัฐบาล มิใช่เป็นเรื่องที่ทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้...หรือพยายามหลีกเลี่ยงไม่ทำ เพราะกลัวจะเสียคะแนนเสียงในการเลือกตั้งคราวต่อไป
คุณอภิสิทธิ์ต้องแสดงความกล้าหาญทางศีลธรรม ด้วยการใช้อำนาจทางการเมืองที่ประชาชนมอบให้ทำในสิ่งที่นักการเมืองทั่วไป ไม่กล้าทำหรือกลัวแรงเสียดทานเกินกว่าจะทำในสิ่งที่ควรจะทำ
ที่เป็นจังหวะเหมาะเจาะยิ่งที่นายกฯ อภิสิทธิ์ จะยืนยันว่า การเสนอตัวมารับใช้ประชาชนในฐานะผู้นำนั้น ก็เพื่อจะ "เปลี่ยนแปลงประเทศไทย" ไปสู่สังคมที่มีค่านิยมสูงกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
เคยมีคนบอกว่า "ถ้าคุณไม่มีลูกติดยาเสพติด คุณจะไม่รู้ซึ้งถึงความเจ็บปวด ของการที่เราปล่อยให้พ่อค้ายาเสพติด มามอมเมาเยาวชนของไทย..."
วันนี้ นายกฯ อภิสิทธิ์จะต้องกล้าที่จะบอกกล่าวกับประชาชนคนทั้งประเทศว่า
"ถ้าคุณไม่มีคนในครอบครัวที่เสียผู้เสียคนเพราะการพนัน คุณจะไม่รู้ซึ้งถึงความปวดร้าว ของการที่เรายอมให้อบายมุข กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของคนไทย..."
ข่าว ยกเลิกหวยออนไลน์ จาก กาแฟดำ-กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวเด่น ข่าวร้อนวันนี้ : กรุงเทพธุรกิจ
07 มกราคม 2553
นายกฯ อภิสิทธิ์ต้องไม่หยุดแค่ ระงับ 'หวยออนไลน์'
Author: Admin.
| Posted at: 10:33 |
Filed Under:
กรุงเทพธุรกิจ,
หวยออนไลน์
|
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 comments:
แสดงความคิดเห็น