ข่าวเด่น ข่าวร้อนวันนี้ : กรุงเทพธุรกิจ

24 มิถุนายน 2553

อินทรีเหล็กปะทะสิงโตคำรามรอบ2ฟุตบอลโลก

"อินทรีเหล็ก"เยอรมนี สมราคาทีมเต็งเข้ารอบที่ 1 กลุ่ม ดี หลังพิชิต กานา 1-0 ปะทะ "สิงโตคำราม" อังกฤษ ที่ฮึดนัดสุดท้ายเฉือน สโลวีเนีย 1-0 เข้ารอบสำเร็จ ขณะที่ "ลุงแซม" สหรัฐ แซงคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ด้วยการชนะ แอลจีเรีย 1-0 นาทีสุดท้าย ด้าน "เสือเตี้ย" ดิเอโก มาราโดนา ชี้เกมรอบ 2 เป็นต้นไปจะเป็นบทพิสูจน์ "ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา อย่างแท้จริง

ศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบแรก วันที่ 23 มิ.ย. เป็นเกมรอบแรกนัดสุดท้าย กลุ่ม ดี "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ลงสนามที่โยฮันเนสเบิร์ก พบกับ "ดาวดำ" กานา โดยเกมนี้ เยอรมนี ต้องการชัยชนะเพื่อการเข้ารอบอย่างแน่นอน ขณะที่ กานา ต้องการแค่เสมอ แต่เกมนี้มีจุดที่น่าสนใจที่ 2 พี่น้องอย่าง เฌอโรม บัวเต็ง กองหลังของเยอรมนี กับ เควิน ปรินซ์ บัวเต็ง กองกลางกานา 2 พี่น้องแท้ๆ ต้องเผชิญหน้ากันในฟุตบบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

เกมในช่วง ครึ่งแรกทั้งสองทีมพยายามเปิดเกมรุกแลกกันอย่างสนุกและสามารถสร้างโอกาสลุ้น ประตูกันได้ทั้งสองฝ่าย แต่เป็น เยอรมนี ที่น่าจะได้ประตูออกนำ นาทีที่ 26 เมื่อ คาเคา แทงบอลให้ เมซุท โอซิล หลุดเดี่ยวไปยิงชนิดที่มีเวลา แต่จังหวะยิงกลับยิงไปติด ริชาร์ด คิงส์ตัน จบครึ่งแรก สกอร์จึงอยู่ที่ 0-0

ครึ่งหลังกลับมาเล่นถึงนาทีที่ 51 กานา ได้โอกาสทองจากบอลยาว อังเดร อายิว ได้บอลหลุดไปยิงเดี่ยวๆ แต่ไปติด มานูเอล นอยเออร์ ที่ออกมาปิดมุม และอีก 8 นาทีต่อมาเป็น เยอรมนี ที่ได้ประตูออกนำ เมซุท โอซิล ได้จังหวะสับไกยิงเต็มๆ จากหน้ากรอบเขตโทษเข้าทางมุมซ้ายเป็น 1-0 จากนั้นทั้งสองทีมไม่เน้นเกมรุกกันเท่าไรนัก จบเกม เยอรมนี ชนะ 1-0 มี เพิ่มเป็น 6 แต้ม คว้าแชมป์กลุ่มไปพบ อังกฤษ ในรอบ 16 ทีมสุด ท้าย ขณะที่ กานา แม้จะแพ้แต่ก็ยังเข้ารอบเป็นอันดับ 2 ไปพบ สหรัฐ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสงอทีม

เยอรมนี - มานูเอล นอยเออร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม, เพอร์ แมร์เตซัคเกอร์, อาร์เน ฟรีดริช, เฌอโรม บัวเต็ง, ซามี เคดิรา, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, โธมัส มุลเลอร์, เมซุท โอซิล, ลูคัส โพโดลสกี, คาเคา

กาน่า - ริชาร์ด คิงส์ตัน, จอห์น แพนท์ซิล, จอห์น เมนซาห์ล โจนาธาน เมนซาห์, ฮันส์ ซาร์ไป, แอนโธนี อันนัน, คัดโว อซาโมอาห์, อังเดร อายิว, เควิน ปรินซ์ บัวเต็ง, อซาโมอาห์ กียาน, ปรินซ์ ทาโก

จิงโจ้คว้าชัยส่งท้าย 2-1

อีกคู่ของกลุ่ม ดี เซอร์เบีย พบกับ ออสเตรเลีย ที่ เนลสพรูอิท โดยทั้งสองทีมต่างก็ต้องการชัยชนะเพื่อเข้ารอบ แต่ทาง เซอร์เบีย ยังมีการพักตัวหลักอย่าง อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ ที่ติดใบเหลืองอยู่ แต่ก็ยังส่งตัวหลักลงสนามกันหลายคน ขณะที่ ออสเตรเลีย ไม่มีทั้ง เครก มัวร์, แฮร์รี คีเวลล์ ที่ติดโทษแบน แต่ได้ ทิม เคฮิลล์ พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมได้

เริ่มเกมได้ 12 นาที เซอร์เบีย ได้โอกาสทองในการได้ประตูนำเมื่อ มิลอส คราซิช ได้บอลหลุดเดี่ยวไปแตะหลบ มาร์ค ชวาร์เซอร์ ไปแล้วแต่ยิงหลุดกรอบแบบน่าเสียดาย จากนั้น เซอร์เบีย ก็บุกแบบพับสนาม นาทีที่ 34 นิโกลา ซิกิช ได้โหม่งเหน่งๆ แต่ก็โดนไม่เต็ม บอลหลุดออกเสาสองไป จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0

ช่วงครึ่ง หลังกลับกลายเป็นว่า ออสเตรเลีย เล่นได้ดีขึ้น จนนาทีที่ 69 ออสเตรเลีย ได้ประตูออกนำจากการโหม่งของ ทิม เคฮิลล์ เป็น 1-0 และนาทีที่ 73 ทีมจิงโจ้ได้ประตูหนีห่างออกไปอีก แบรตต์ โฮลแมน ลากบอลไปยิงเสียบมุมซ้ายเป็น 2-0 ก่อนที่ เซอร์เบีย จะมาฮึดตีไข่แตกได้นาทีที่ 84 จากการยิงซ้ำของ มาร์โก ปันเทลิช กองหน้าตัวสำรอง แต่สุดท้าย ออสเตรเลีย ยังชนะไปได้ 2-1 ทำให้ทั้งสองทีมตกรอบทั้งคู่

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ออสเตรเลีย - มาร์ค ชวาร์เซอร์, ลุค วิลค์เชียร์, ลูคัส นีล, ไมเคิล โบแชมป์, เดวิด คาร์นีย์, คาร์ล วาเลรี, เจสัน คูลินา, เบรตต์ เอเมอร์ตัน, ทิม เคฮิลล์, จอช เคนเนดี, มาร์ค เบรสชาโน

เซอร์เบีย - วลาดิเมียร์ สตอยโควิช, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, เนมันยา วิดิช, อเล็กซานดาร์ ลูโควิช, อิวาน โอบราโดวิช, ซดาฟโก้ คุซมาโนวิช, เดยัน สแตนโควิช, มิลอส คราซิช, มิลาน โยวาโนวิช, มิลอส นินโควิช, นิโกลา ซิกิช

ตารางคะแนนกลุ่ม ดี

แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย แต้ม

เยอรมนี 3 2 0 1 5 1 6

กานา 3 1 1 1 2 2 4

เซอร์เบีย 3 1 0 2 2 3 3

ออสเตรเลีย 3 0 1 2 3 6 3

อังกฤษรอดตัวเฉือน1-0

กลุ่ม ซี "สิงโตคำราม" อังกฤษ ลงสนามพบ สโลวีเนีย ที่พอร์ท อลิซาเบธ โดยเกมนี้ทีมของ ฟาบิโอ คาเปลโล ต้องการชัยชนะเพื่อการเข้ารอบอย่างแน่นอน และมีการปรับทัพเอา เจอร์เมน เดโฟ มาเป็นกองหน้าคู่กับ เวย์น รูนีย์ ขณะที่ สโลวีเนีย ต้องการแค่เสมอจะเข้ารอบทันที

เริ่มเกมขึ้นมา อังกฤษ พยายามเดินเกมรุกทันที เนื่องจากต้องการชัยชนะและนาทีที่ 23 ก็มาประสบ ความสำเร็จเมื่อ เจมส์ มิลเนอร์ เปิดบอลโด่งจากทางขวาไปหน้าประตู เจอร์เมน เดโฟ เข้าชาร์จที่หน้าประตูเป็น 1-0 จากนั้นนาทีที่ 30 อังกฤษ น่าจะได้ประตูที่ 2 เมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด ได้แปเหน่งๆ บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ แต่ ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช พุ่งปัดเอาไว้ได้ทัน

เข้าครึ่งหลังกลับมาเล่นถึงนาทีที่ 58 อังกฤษ น่าจะได้ประตูอีกครั้งจากลูกเตะมุมทางขวา จอห์น เทอร์รี ขึ้นโขกเต็มๆที่เสาสอง แต่ ฮันดาโนวิช ปัดออกไปได้หวุดหวิด จากนั้น รูนีย์ ได้จังหวะหลุดการล้ำหน้าไปยิงแต่ไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย จบเกม อังกฤษ ชนะไปแค่ 1-0 แต่ก็เพียงพอกับการเข้ารอบ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

อังกฤษ - เดวิด เจมส์, เกลน จอห์นสัน, แมทธิว อัพสัน, จอห์น เทอร์รี, แอชลีย์ โคล, เจมส์ มิลเนอร์, แฟรงค์ แลมพาร์ด, แกเร็ธ แบร์รี, สตีเวน เจอร์ราร์ด, เวย์น รูนีย์ (โจ โคล น.72), เจอร์เมน เดโฟ (เอมิล เฮสกีย์ น. 85)

สโลวีเนีย - ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช, มิโซ เบรชโก, มาร์โก ซูเลอร์, บอสท์ยาน เซซาร์, บอยาน โยคิช, วัลเตอร์ เบียร์ซา, โรเบิร์ท โคเรน, อเลกซานดาร์ ราโดซาฟเยวิช, อันดราซ เคิร์ม (ทิม มาทาฟซ์ น. 79), ซลาตัน ลูบิยานคิช (ซลัทโก เดดิช น. 62), มิลิโวเย โนวาโควิช

ลุงแซม 1-0 คว้าแชมป์กลุ่มซี

กลุ่ม ซี อีกคู่ที่พริทอเรีย "ลุงแซม" สหรัฐ ที่มี 2 แต้มพบกับ แอลจีเรีย ที่มีแต้มเดียว ทำให้ทั้งสองทีมต่างก็ต้องการชัยชนะด้วยกันทั้งคู่เพื่อพลิกสถานการณ์เข้า รอบ เกมนี้ สหรัฐ ไม่มี ร็อบบี ฟินด์ลีย์ ที่ติดโทษแบนจึงใช้ เฮอร์คูเลซ โกเมซ ลงมาเป็นกองหน้าแทน ขณะที่แนวรับตัดสินใจใช้ โจนาธาน บอร์นสไตน์ ลงมาแทน ออนกูชี ออนเยวู ขณะที่ แอลจีเรีย ส่งตัวเก๋าอย่าง ราฟิค เฌมบูร์ ลงมาทำเกมตัวจริง

เริ่มเกมมา 6 นาที แอลจีเรีย พลาดโอกาสทองในการได้ประตูนำจากการพลาดของกองหลังสหรัฐบอลหลุดไปเข้าทางให้ ราฟิค เฌมมูร์ หลุดไปยิงผ่าน ทิม โฮเวิร์ด ไปแล้วแต่บอลไปชนคานออกมาอย่างน่าเสียดาย ขณะที่ สหรัฐ ได้โอกาสนาทีที่ 23 คลินท์ เดมป์ซีย์ ชาร์จบอลเข้าประตูไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าซะก่อน จึงชวดไป ทั้งๆ ที่ยืนอยู่เท่ากับกองหลัง จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0

เข้าครึ่งหลัง สหรัฐ พลาดโอกาสทองอีกครั้ง โจซี อัลติดอร์ วิ่งเข้ายิงบอลที่กรอบเขตโทษบอลไปชนเสาออกมา และ เดมป์ซีย์ ได้ซ้ำเหน่งๆ แต่หลุดกรอบอย่างเหลือเชื่อ จากนั้น สหรัฐ พยายามเดินเกมรุกอย่างหนัก จนนาทีสุดท้ายของเกม สหรัฐ มาได้ประตูชัยจากการวิ่งเข้ายิงของ แลนดอน โดโนแวน ก่อนที่ช่วงทดเจ็บ แอลจีเรีย เหลือ 10 คน อันเธอร์ ยาเฮีย โดนใบเหลืองแดง และจบเกม สหรัฐ ชนะ 1-0 ได้ผ่านเข้ารอบรวมทั้งยังเป็นแชมป์กลุ่ม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แอลจีเรีย - เอ็มโบฮี อูเฮบ, มัดจิด บูเกอร์รา, นาเดียร์ เบลฮัดจ์, อันเธอร์ ยาเฮีย, ราฟิค ฮาลิเช, เมห์ดี ลาเซน, ราฟิค เฌมมูร์ (อับเดลคาเดอร์ ไซฟี น. 85) คาริม มัตมูร์ (ราฟิค ซาฟี น. 85), , คาริม ซิยานี (อัดอิห์เน กีดิอูรา น. 69), ฮัสซันน เยบดา, ฟูเอด คาเดอร์

สหรัฐ - ทิม โฮเวิร์ด, สตีฟ เชรุนโดโล, เจย์ เดเมอริต, คาร์ลอส โบคาเนกรา, โจนาธาน บอร์นสไตน์ (เดมาร์คัส บีสลีย์ น. 80), แลนดอน โดโนแวน, ไมเคิล แบรด์ลีย์, มัวริช เอดู (เอ๊ดสัน บัดเดิล น. 64), คลินท์ เดมป์ซีย์, โจซี อัลติดอร์, เฮอร์คูเลซ โกเมซ (เบนนี เฟฮาเบอร์ น. 46)

ตารางคะแนนกลุ่ม ซี

แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย แต้ม

สหรัฐ 3 1 2 0 5 3 5

อังกฤษ 3 1 2 0 2 1 5

สโลวีเนีย 3 1 1 1 3 3 4

แอลจีเรีย 3 0 1 2 0 2 1

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

 

ASTV ผู้จัดการ News

กรุงเทพธุรกิจ - ข่าวหน้าแรก

เกาะติดสื่อ ตามข่าวร้อน Copyright © 2009 WoodMag is Designed by Ipietoon for Free Blogger Template