ยุติการชุมนุมยืดเยื้ออย่างยั่งยืน

การหารือระหว่างตัวแทนภาครัฐกับผู้ประกอบ การเอกชนย่านราชประสงค์ที่ เดือดร้อนจากการชุมนุมที่ไม่มีทีท่าจะยุติง่าย ๆ และลุกลามบานปลายสู่ปัญหาอื่น ๆ นั้น ยอมรับกันว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลไม่ได้สร้างภูมิต้านทาน หรือ จัดการเพื่อป้องกันสิ่งที่จะเกิดขึ้นซ้ำ หลังการใช้ความรุนแรงต่อเนื่องจากการชุมนุมเมื่อเดือนเมษายน 2552 ทั้งนี้ เพราะต้องทุ่มเทเวลาไปกับการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุมเร้าอยู่รอบด้านและ การกอบกู้ภาพลักษณ์ที่เสียหายอย่างรุนแรงต่อนานาประเทศ และภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบรุนแรงเฉียบพลันที่สุด

การ จัดการเพื่อยุติการชุมนุมครั้งนี้ รวมถึง แผนการปราบปรามการก่อการร้าย ที่แฝงตัวนั้น รัฐบาลคงจะหาช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อป้องกันผลกระทบและความสูญเสียให้เกิด น้อยที่สุด กับจะต้องรวบรวมปัญหาเชิงประสิทธิภาพการจัดการ ฝูงชน การป้องกันปราบปรามการก่อจลาจลรวมถึงการก่อการร้าย ในเขตชุมชน โดยเฉพาะแหล่งธุรกิจสำคัญ ที่ครั้งนี้ รัฐไม่สามารถแก้ปัญหาได้ภายในเวลาที่รวดเร็ว ส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่ธุรกิจย่านนั้นและเศรษฐกิจโดยรวมเสียหายอย่างมาก ซึ่งยากแก่การเยียวยา

แต่ในท่ามกลางเรื่องร้าย ๆ ก็ทำให้ได้อุทาหรณ์ ของการที่รัฐไม่ได้เตรียมระบบเพื่อป้องกันและรับสถานการณ์ทำนองนี้ไว้ จึงต้องเผชิญความทุกข์ ความเสียหายกันโดยถ้วนหน้า ด้วยเหตุนี้ นอกจากพยายามทำให้การชุมนุมยุติ รัฐบาลตลอดจนองค์กรที่มีบทบาท อำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งปวง ต้องยอมรับและจัดให้เกิดการลงทุนเพื่อสร้างระบบมิให้มีกลุ่มใดอ้าง เสรีภาพการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญมาก่อความเดือดร้อนหรือใช้เพื่อพัฒนาไปเป็น การก่อภัยร้ายอื่น ๆ แก่ประเทศชาติ

อย่างไรก็ตาม การวางแผน เตรียมการเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันดังกล่าว ต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวังไม่ให้กลายเป็นการขัดขวางการใช้เสรีภาพ ตลอดจนการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ทั้งควรพิจารณาหาวิธีที่เหมาะสมให้ประชาชนมีช่องทางรับรู้ หรือเข้าถึงแหล่งข้อมูล แหล่งโอกาสต่าง ๆ เพื่อป้องกันมิให้มีผู้ใดป้อนข้อมูลบิดเบือน จนชาวบ้านบางส่วนหลงเข้าใจผิดจนเกิดปัญหา.

โดย เดลินิวส์