เตรียมฟ้องกฤษฎีกา ตีความมาบตาพุด ขัด รธน.

ไทยรัฐ : องค์กรเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม เตรียมพิจารณาฟ้องร้องคณะกรรมการกฤษฎีกาเพิ่มเติมต่อศาลปกครอง ในคดีมาบตาพุด ฐานตีความมาตรา 67 ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ จนเกิดปัญหา ...

เมื่อ วันที่ 4 ธ.ค. เครือข่ายสิ่งแวดล้อมไทย ร่วมกับสมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) และคณะกรรมการคู่ขนาน ของสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน นำโดย นางเรวดี ประเสริฐเจริญสุข นายสุรพล ดวงแข พร้อมด้วยนายหาญณรงค์ เยาวเลิศ หม่อมหลวงวัลย์วิภา จรูญโรจน์ ได้ร่วมเปิดแถลงข่าวต่อกรณีการตั้งองค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อม ตามมาตรา 67 วรรคสอง รัฐธรรมนูญ 2550 และ ทางออกในการแก้ปัญหามาบตาพุด

นายสัญ ชัย สูติพันธ์วิหาร อาจารย์คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ เครือข่ายจะนำเสนอร่าง พ.ร.บ.องค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ตามมาตรา 67 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งเป็นฉบับที่ภาคประชาชนร่วมกับนักวิชาการด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อม ยกร่างไว้ เพื่อเสนอให้กับคณะกรรมการ 4 ฝ่ายของ นายอานันท์ พิจารณาเป็นทางเลือกในการแก้ปัญหามาบตาพุด

นายสัญชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เครือข่ายจะล่ารายชื่อได้ครบ 10,000 คน เพื่อผลักดันกฎหมายฉบับประชาชนเข้าสู่สภาในปี 2553 ด้วย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของปัญหามาบตาพุด มีข้อเสนอ 3-4 ประเด็น คือ ขอให้จัดลำดับความสำคัญในการใช้งบประมาณภายใต้แผนปฏิบัติการลดและขจัดมลพิษ นอกจากนี้ ให้เร่งเปิดผลการศึกษาศักยภาพรองรับมลพิษในพื้นที่มาบตาพุดต่อสาธารณะ และใช้ประกอบเป็นแนวทางอนุมัติ หรือ ชะลอโครงการที่ส่งผลกระทบ นอกจากนี้เสนอให้ทบทวนผังเมือง และ กำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เหมาะสม รวมทั้งขอให้จัดโซนนิ่งพื้นที่เพื่อป้องกันผลกระทบต่อชุมชน และการเปิดเผยผลการปฏิบัติตามอีไอเอต่อสาธารณะ

นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านภาวะโลกร้อน กล่าวว่า หลังจากคำสั่งศาลปกครองสูงสุดให้ 65 โครงการ ที่มาบตาพุดต้องหยุดดำเนินการทันที โดยหน่วยงานที่ถูกสมาคมต่อต้านภาวะโลกร้อนฟ้อง ทั้ง 8 หน่วยงาน ซึ่งมีหน้าที่ออกคำสั่งอนุญาตโครงการเอกชนต่างๆ นั้น มีหน้าที่ต้องแจ้งเจ้าของโครงการทั้ง 65 โครงการให้หยุดดำเนินการทันทีทุกกิจกรรม โดยสามารถใช้คำสั่งศาลเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมาไปแจ้งกับเจ้าของโครงการในพื้นที่ยุติได้ ถ้าหน่วยงานไม่ดำเนินการใดๆ เข้าข่ายละเมิดคำสั่งศาลและผิดกฎหมายประมวลอาญา มาตรา 157 ด้วย

นายศรี สุวรรรณ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ฝ่ายกฎหมายกำลังพิจารณาว่าจะฟ้องร้องคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 1 และคณะที่ 5 สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อศาลปกครองเพิ่มเติม เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีคำวินิจฉัยและตีความเรื่องมาตรา 67 วรรคสอง ที่ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญจนนำมาสู่ปัญหาการฟ้องร้องกรณีโครงการในมาบตาพุด และถือว่าเป็นหน่วยงานที่เสนอเรื่องแก้ไข ปรับปรุง หรือยกเลิกกฎหมายแต่กลับไม่ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง

ที่มา ข่าวมาบตาพุด ข่าวปัญหาสิ่งแวดล้อม จาก ไทยรัฐ