ข่าวเด่น ข่าวร้อนวันนี้ : กรุงเทพธุรกิจ

04 ธันวาคม 2552

โครงการมาบตาพุดชงัก 4 หมื่นแรงงานวุ่น

มติชน : ก่อสร้าง"มาบตาพุด"ชะงัก 4 หมื่นคนวุ่น "มาร์ค"ให้เอกชนเคารพศาล

แจ้งคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว กระทบ"จีดีพี"-ยังคงเป้าเดิม จี้กก.4ฝ่ายสรุปใน2สัปดาห์

"กอร์ป ศักดิ์"เผยเอกชนระบุ โครงการที่มาบตาพุดชะงัก กระทบแรงงานก่อสร้าง 3-4 หมื่นคน "มาร์ค"เร่ง กก. 4 ฝ่ายคลอดเกณฑ์รองรับ ม.67 คาดไม่เกิน 2 สัปดาห์ได้ข้อสรุป แจ้ง 65 โครงการให้เคารพศาลปกครองที่สั่งคุ้มครองชั่วคราว ยอมรับปัญหามาบตาพุดกระทบจีดีพี แต่ยังไม่เปลี่ยนเป้าตัวเลข

เรียก ประชุมด่วนแก้ปม"มาบตาพุด" เร่ง กก. 4 ฝ่ายคลอดเกณฑ์รองรับ ม.67 คาดไม่เกิน 2 สัปดาห์ได้ข้อสรุป ก่อนให้ 65 ใช้เป็นช่องทางปฏิบัติให้ถูกต้องก่อนยื่นให้ศาลปกครองเลิกระงับ ยอมรับปัญหามาบตาพุดกระทบจีดีพี ชี้เป็นบทเรียนที่มีค่าที่จะผลักดันแนวเศรษฐกิจเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมต่อไป เอกชนเผยโครงการที่ถูกระงับมีคนงานก่อสร้าง เลขาฯกรรมการ 4 ฝ่ายจี้ ทส.ปรับปรุงประกาศใหม่ให้สมูบรณ์ ก่อนบังคับใช้

"มาร์ค"ถกด่วนแก้"มาบตาพุด"

ภาย หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ให้ 65 โครงการในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ระงับการดำเนินการชั่วคราว ตามคำสั่งของศาลปกครองกลาง ส่วนอีก 11 โครงการให้ดำเนินการต่อไปได้ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 3 ธันวาคม ที่ห้องประชุมศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีปัญหามาบตาพุด โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมอย่างคับคั่ง อาทิ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ภายหลังการ ประชุมนายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า สรุปผลประชุม 3 เรื่อง 1.คณะกรรมการ 4 ฝ่ายกำลังดูเรื่องระเบียบที่จะมารองรับมาตรา 67 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญ ตามกำหนดที่ให้ไว้ ใช้เวลาอีกไม่นาน ตรงนี้จะเป็นฐาน ซึ่งทุกโครงการที่ยังเป็นปัญหาในการดำเนินการ จะสามารถเข้ามาใช้ช่องทางนี้ได้เลย เมื่อใช้ช่องทางดังกล่าวและดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จสามารถที่จะไปขอศาลให้ ไม่ถูกระงับโครงการ ประเด็นนี้เป็นหลักการที่ใหญ่ที่สุด 2.รัฐแจ้งให้ภาคเอกชนทราบถึงคำสั่งของศาลซึ่งเป็นคำสั่งระงับคำสั่งคุ้มครอง ชั่วคราว แล้วต้องการให้เอกชนเคารพคำสั่งศาล

รับกรณีมาบตาพุดกระทบจีดีพี

นาย อภิสิทธิ์กล่าวว่า 3.ส่วนการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและการบริหารจัดการหรือจำกัดความเสียหาย รวมทั้งการสร้างความเชื่อมั่น มอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงพลังงานไปทำรายละเอียดมาเป็นรายโครงการ ว่า แต่ละโครงการสถานะอยู่ที่ไหน อย่างไร แล้วมีปัญหาอะไร หรือได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างกับคำวินิจฉัยของศาล รัฐบาลจะได้ไปดูว่าจะบริหารจัดการจำกัดความเสียหายนี้อย่างไรบ้าง

เมื่อ ถามถึงมาตรการชัดเจนในการเข้าเยียวยา จะเป็นเงินชดเชยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องไปสำรวจให้หมดก่อน แล้วรัฐบาลจะพิจารณาอีกที เมื่อถามว่า ส่วนโครงการที่จัดทำผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ก่อนปี 2550 จะเดินหน้าโครงการได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์เลี่ยงตอบว่า "ผมไม่ใช่ศาล" เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น กระทบหรือทำให้ต้องเปลี่ยนเป้าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ก็มีกระทบบ้าง แต่ยังไม่มีการเปลี่ยนเป้าจีดีพีในปีนี้" เมื่อถามว่า ที่ประชุมได้พูดถึงประเด็นที่เอกชนอาจขาดความเชื่อมั่น จนมีการย้านฐานการผลิตบ้างหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า มีการคุยกัน โดยขอให้มีการไปสำรวจเป็นรายโครงการมา

คาด2สัปดาห์กก.4ฝ่ายได้ข้อสรุป

เมื่อ เวลา 19.30 น. ที่ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ เขตหนองจอก นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ว่า ขอให้คณะกรรมการ 4 ฝ่ายไปทำโดยเร็วที่สุด คาดว่าใช้เวลา 2 สัปดาห์ สำหรับความเห็น ของกฤษฎีกาที่ให้มา ก็ไม่ได้บอกให้ทำขัดกับรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่า มีการพูดคุยกับเอกชนหรือไม่ต่อแนวทางที่กฤษฎีกาให้มา จะทำอย่างไรได้บ้าง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังไม่ไปถึงตรงนั้น ขอให้ไปสำรวจข้อเท็จจริงมาก่อน โดยเอกชนที่เหลือ 65 โครงการ เชื่อว่ามีความแตกต่างในเรื่องของข้อเท็จจริงและสถานะอยู่ เอกชนก็ต้องไปดูว่ามีข้อเท็จจริงอะไรที่คิดว่าศาลอาจจะมีคำสั่งที่จะยกเว้น หรือยกเลิกคำสั่งชั่วคราวเป็นรายกรณีได้ เอกชนก็สามารถเสนอไปได้ เมื่อถามว่า หากเอกชนไม่ดำเนินการตามกฎหมายจะมีมาตรการอย่างไร นายกฯกล่าวว่า คิดว่าต้องแจ้งตามคำสั่งศาล เมื่อเอกชนรับทราบคำสั่งศาลแล้ว เมื่อไม่ทำตาม เราก็จะมีเหตุผลในการดำเนินการ

ชี้กรณี"มาบตาพุด"บทเรียนมีค่า

ก่อน หน้านี้ นายอภิสิทธิ์เป็นประธานในการสัมมนาเรื่อง "Thailand Green Competitiveness and Rebranding" พร้อมกล่าวปาฐกถาหัวข้อ "ยุทธศาสตร์ประเทศไทย Thailind Green Strategy" ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ตอนหนึ่ง ว่า ปัญหามาบตาพุดเกิดจากความย่อหย่อนเกี่ยวกับปัญหาผังเมือง และการรับมือในการบังคับใช้กฎหมาย นำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างประชาชนในพื้นที่กับอุตสาหกรรม เพราะประชาชนได้รับผลกระทบด้านคุณภาพชีวิต การแก้ปัญหามาบตาพุดต้องมีกฎกติกาการลงทุนที่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรรค 2 ขณะนี้คณะกรรมการร่วม 4 ฝ่ายอยู่ระหว่างการจัดทำแนวทางการลงทุน ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ ของรัฐธรรมนูญ ร่วมถึงการให้ประชาชนมีส่วนร่วม

"บท เรียนจากมาบตาพุดทำให้เรารู้ว่า ในที่สุดแล้วจำเป็นต้องคำนึงถึงความยั่งยืน พร้อมทั้งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิต ถึงจะทำให้การพัฒนาทางอุตสาหกรรมเป็นไปอย่างราบรื่น หากเราสามารถคลี่คลายและบริหารจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าได้ จะเป็นบทเรียนที่มีค่ามากว่า วันข้างหน้าวิธีการบริหารจัดการประเด็นเหล่านี้ หน่วยงานของรัฐ ธุรกิจเอกชน และภาคประชาชน ต้องปรับตัวกันอย่างไร" นายอภิสิทธิ์กล่าว

ดันศก.เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม

นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังคงมีงานอีกเยอะที่เราต้องช่วยกันทำเพื่อรณรงค์ให้เศรษฐกิจของเราเป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ไม่เพียงแต่การรณรงค์เปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค แต่การยอมรับภาระที่พวกเราพึงจะรับในการก่อมลพิษ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายค่าประกันน้ำเสีย มาตรการด้านภาษีหรือค่าธรรมเนียม ยังไม่เป็นที่ยอมรับเท่าที่ควร เรื่องนี้สำคัญมากหากมีการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจให้เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเห็นทุกภาคส่วนได้แสดงบทบาทของตัวเองอย่างเต็มที่ รัฐบาลจะกำหนดนโยบายให้สอดคล้องกับเป้าหมาย หน่วยงานราชการต้องสามารถผลักดันนโยบายต่างๆ ให้เกิดขึ้นจริงผ่านกระบวนการปรึกษาหารือ และการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายในสังคม ภาคเอกชนต้องคิดค้นและแสวงหาธุรกิจใหม่ๆ ที่จะมีส่วนส่งเสริมสนับสนุนธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

เอกชนระบุมีคนงานก่อสร้าง4หมื่น

นาย กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯด้านเศรษฐกิจ กล่าวภายหลังการประชุมหารือมาตรการแก้ปัญหากรณีมาบตาพุดที่มีนายกฯเป็น ประธานว่า แนวทางช่วยเหลือเบื้องต้นได้มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมไปพิจารณาโครงการ ที่มีปัญหาว่าอยู่ในสถานะอย่างไร หากโครงการที่ได้อีไอเอก่อนมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ก็สามารถดำเนินการต่อ แต่ก่อนจะหามาตรการเยียวยา จะต้องพิจารณาสถานภาพของแต่ละโครงการ ซึ่งทางนายกฯไม่ได้ระบุเวลา แต่แจ้งว่าให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด โดยภาค เอกชนระบุว่าความเสียหายเบื้องต้น มีคนงานประมาณ 3-4 หมื่นคน ที่เกี่ยวข้องในเรื่องการก่อสร้าง

นายสรยุทธ์ เพ็ชรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ภาคเอกชนยังมีสิทธิที่จะหารือต่อศาล ให้ศาลทบทวนในแต่ละโครงการ หลังจากนี้ทางกระทรวงอุตสาหกรรมจะร่วมกับกระทรวงพลังงานประเมินรายละเอียด แต่ละโครงการ เพื่อนำข้อมูลไปประกอบการพิจารณาแนวทางต่อไป

กก.4ฝ่ายจี้ทส.ปรับปรุงประกาศ

นาย บัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการ 4 ฝ่าย เพื่อแก้ปัญหามาบตาพุด เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ 4 ฝ่ายที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯเป็นประธาน ได้หารือกรณีคำสั่งศาลปกครองสูงสุดให้ 65 โครงการในมาบตาพุดต้องปฏิบัติตามมาตรา 67 วรรคสอง ซึ่งเห็นว่าจะไม่กระทบกับการทำงานเดิมของกรรมการชุดนี้ ที่จะหาข้อยุติและคัดแยกบัญชีโครงการรุนแรงในมาบตาพุดที่ต้องยืนตามคำสั่ง ศาลดังกล่าว

นายบัณฑูรกล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ เจ้าของโครงการสามารถเตรียมทำการประเมินผลกระทบทางด้านสุขภาพ (เอชไอเอ) ที่สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) วางเกณฑ์ไว้แล้ว และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ก็จะปรับมาผนวกกับการประเมินรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และเอชไอเอกับโครงการที่กระทบรุนแรงต่อชุมชน ให้กับคณะกรรมการพิจารณาโครงการชุดพิเศษที่ตั้งขึ้นมาพิจารณา และควรต้องส่งให้องค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อมให้ความเห็นด้วย รวมทั้งการรับฟังความคิดเห็นที่เพียงพอ จากนั้นจึงจะสามารถนำผลการพิจารณาไปยื่นประกอบต่อศาล เพราะถือว่าที่ถูกระงับโครงการเกิดจากความไม่ครบถ้วนในมาตรา 67 วรรคสอง

"แต่ ขณะนี้มีปัญหาว่าประกาศของ ทส.ยังไม่ครบถ้วนในหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่ององค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อม และโครงสร้างคณะ กรรมการชุดพิเศษ รวมทั้งหลักเกณฑ์เอชไอเอ ที่อาจต้องปรับอีกเล็กน้อย ประกาศ ทส. ยังไม่สามารถบังคับใช้เป็นกฎหมายได้ ต้องปรับแก้ให้สมบูรณ์ก่อน ทั้งนี้ นายอานันท์ได้หารือกับอนุกรรมการย่อยด้านสุขภาพ เพื่อหาข้อยุติในตัวประกาศ ทส. คาดว่าอย่างช้าสุดคงไม่เกิน 2 สัปดาห์ จะได้ข้อสรุป" นายบัณฑูรกล่าว

พท.ชี้กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน

นาย ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรค พท. กล่าวว่า พรรค พท.เคยเตือนรัฐบาลให้เร่งรัดแก้ไขปัญหาดังกล่าวมานานแล้ว ว่ารัฐบาลเพิ่งมาตั้งนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ มาเป็นคณะกรรมการแก้ปัญหาดังกล่าว คาดว่าจะใช้เวลานานกว่า 1 ปี และล่าสุดคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ออกมาในแง่ธุรกิจจะได้รับผลกระทบหนักแน่ นอน โดยเฉพาะความมั่นใจนักลงทุนต่างชาติ รัฐบาลควรเร่งให้เกิดความชัดเจน 2 ประเด็นคือ 1.รัฐบาลดำเนินการโครงการดังกล่าวได้ถูกต้องภายใต้เงื่อนไขรัฐธรรมนูญหรือ ไม่ 2.จะมีขั้นตอนการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักธุรกิจอย่างไรเพราะอาจจะกระทบ กับโครงการอื่นไปด้วย โดยวันที่ 4 ธันวาคม คณะทำงาน ด้านเศรษฐกิจของพรรคจะหารือถึงกรณีดังกล่าว

ระยองสมานฉันท์รอพบ"อานันท์"

ที่ บริเวณหาดน้ำริน ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง นายสุทธา เหมสถล แกนนำกลุ่มระยองสมานฉันท์ กล่าวว่า กรณีศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้ 65 โครงการระงับดำเนินกิจการนั้น ทำให้ประชาชนในพื้นที่รู้สึกตกใจ ทางกลุ่มระยองสมานฉันท์มีความคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อช่วยภาครัฐ ผู้ประกอบการและชุมชนในพื้นที่ให้อยู่ร่วมกันได้ เกิดความเสียหายน้อยที่สุด จึงมีมติสนับสนุนรัฐบาลและเห็นด้วยกับนายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการ 4 ฝ่าย แต่ฝากบอกนายอานันท์ด้วยความจริงจากใจว่า คนในพื้นที่ อ.บ้านฉาง ประกอบด้วย ต.มาบตาพุด เนินพระ มาบข่า และ ต.ทับมา ที่อยู่พื้นที่ประกาศ เขตควบคุมมลพิษ กลับไม่มีตัวแทนเป็นคณะกรรมการภาคประชาชน

ที่มา ข่าวมาบตาพุด ข่าวการลงทุน ข่าวปัญหาสิ่งแวดล้ัอม ข่าวแรงงาน จาก มติชน

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

 

ASTV ผู้จัดการ News

กรุงเทพธุรกิจ - ข่าวหน้าแรก

เกาะติดสื่อ ตามข่าวร้อน Copyright © 2009 WoodMag is Designed by Ipietoon for Free Blogger Template