ข่าวเด่น ข่าวร้อนวันนี้ : กรุงเทพธุรกิจ

24 มิถุนายน 2553

"ซ่อมเลือกตั้ง" แต่ "หวังต่างกัน"

อืมมมม...อันนี้ถูกใจ ฟังแล้วอยากพูดถึง คือผมเห็นกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ระดับประเทศ และระดับภูมิภาคอย่าง ปตท.บ้าง เอสซีจี หรือกลุ่มปูนซีเมนต์ไทยบ้าง บีแอลซีพีบ้าง โกลว์ และดาว เคมิคอลบ้าง เขาจับมือกันทำข้อตกลงตั้งกลุ่ม "เพื่อนชุมชน" ให้ปรากฏเป็นครั้งแรกในวงการอุตสาหกรรมของประเทศ ก็อยากสนับสนุนตัวอย่างดีๆ อย่างนี้ให้แพร่หลายไปมากๆ อุตสาหกรรมกับชุมชนจะอยู่ร่วมกันได้ ถ้ารู้จัก "เอา" และรู้จัก "ให้" ที่สมดุล
เท่าที่ผมฟัง "คุณประเสริฐ บุญสัมพันธ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เขาพูดถึงหลักการใหญ่ๆ ก็มีว่า จะร่วมกันพัฒนาต้นแบบโรงงานให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เรียกว่าจะทำให้ดีกว่าที่กฎหมายกำหนดด้วยซ้ำ!
ไม่ใช่สักแต่ว่าทำเอาไว้ อ้างกับชาวบ้านเวลามาร้องเรียน เขาบอกว่า ทำแล้วในส่วนดูแลรักษา-ตรวจสอบทั้งคุณภาพชีวิตชาวระยอง และคุณภาพสิ่งแวดล้อมต่อเนื่อง ไม่ต้องห่วง ภาระทั้งหลาย พวกเขารับเป็นเจ้าภาพเอง และจะเปิดให้ทุกภาคส่วน รวมถึงชุมชนมีส่วนร่วมในกระบวนการตรวจสอบด้วย
เน้นส่งเสริมคุณภาพชีวิต ชุมชน สิ่งแวดล้อม ทั้งด้านสุขภาพและการศึกษา ไม่ใช่อุตสาหกรรมโต แต่ชาวบ้านและชุมชนตาย ต่อไปนี้อุตสาหกรรม-ชาวบ้าน-ชุมชนต้องเป็น "หุ้นส่วนแห่งความยั่งยืนร่วมกัน" ต้องโตไปพร้อมๆ กันตามสัดส่วนที่สมดุล!
พี่ น้องชาวมาบตาพุด ที่ระยอง ก็ติดตาม และจับตาดูนะครับ ผมก็จะช่วยดูอีก ๒ ตา แต่ขอบอกให้อุ่นใจได้อย่าง ถ้าโครงการเพื่อสังคมไหน ปตท.เขาทำล่ะก็ "วางใจได้" ไม่มีสักแต่ว่าทำแบบเอาผักชีโรยหน้าอาหารบูด หรือทำแบบเอาตัวรอดชั่วมื้อ-ชั่วคราว
"โครงการพลิกฟื้นผืนป่าชายเลน" นั่นคือความสำเร็จที่รับประกันคำคุย กระทั่งที่ไหน ปตท.ไปขุด-ไปทำอะไรไว้ เขาก็จะฟื้นฟู รักษาให้กลับคืนมาดีดังเดิม หรือดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ ไม่ใช่อะไรหรอก บังเอิญย่องไปลุยทองผาภูมิ สังขละมาครั้ง ถามคนพื้นที่ว่า...ไหน ที่ ปตท.มาขุดวางท่อก๊าซที่เคยเป็นเรื่องเป็นราว?
เขา ก็ชี้ โน่น..โน่น..ผมก็ดูตามนิ้วเขา ก็ไม่เห็นร่องรอยอะไร นอกจากต้นไม้ที่เรียกว่า "ป่า" พรึ่ดไปหมด เขาก็ว่า นั่นแหละ..นั่นแหละ..ป่านั่นแหละ กาลครั้งหนึ่ง ปตท.เคยขุดวางท่อก๊าซมาจากพม่า แต่กาลครั้งนี้มีแต่ป่ากับป่าที่ปลูกเต็มตลอดแนว!
ในเรื่องความรับผิด ชอบต่อสังคม ต่อสิ่งแวดล้อมนี่ ปตท.เขาเชื่อถือได้ อย่างโครงการ "โลกสีเขียว" เขาพลิกจิตสำนึกใหม่ให้หยั่งรากสังคมไทยรักต้นไม้-รักป่าแบบมีวิถีชีวิต เกื้อกันได้อย่างน่ามหัศจรรย์
และนี่ โครงการ "๑ ล้านกล้า...เพื่อพ่อ" ของกระทรวงพลังงาน ยี่ห้อ ปตท.ทำให้มั่นใจได้ว่า ๑ ล้านกล้า จะต้องเป็น ๑ ล้านร่มไม้ใหญ่ เขียวชอุ่มคลุมผืนดินไทยได้ในอนาคตแน่นอน
ประเทศไทยขาด น้ำมัน "ไม่ตายหมด" แต่ถ้าขาดน้ำทำไร่-ทำนา" ตายหมด" แน่ๆ !
ฉะนั้น โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมควบคู่การดูแลชุมชนของ "กลุ่มเพื่อนชุมชน" และโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านการปลูกป่า-ปลูกไม้ของ ปตท.ที่ทำมาต่อเนื่องนี้ เป็นที่น่าสรรเสริญครับ และควรยกย่องให้เป็นแบบอย่างสำหรับธุรกิจอุตสาหกรรม และองค์กรที่ "เหลือกิน-เหลือใช้" ทั้งหลาย
ช่วยกันคืน "ป่า" ให้กับสังคมไทยผ่าน "ผืนแผ่นดิน" กันเถอะครับ มีป่า ฟ้าให้ฝน คนมีข้าว แล้วไทยเราก็จะเป็นสุข!
เอ้า...ว่า จะแตะๆ ซักนิดเดียว คุยแล้วก็ยาวยืด อย่างนั้นวันนี้ก็คุยสัพเพเหระสารพัดเรื่องไปก็แล้วกันนะครับ นี่...ข่าวโทรทัศน์แว่วเข้าหูว่า พรรคเพื่อไทยลงมติส่ง "นายก่อแก้ว พิกุลทอง" ลงสมัคร ส.ส.กทม.เขต ๖ ย่านมีนบุรี จากเดิมที่ท่านพี่จตุพรของผมโหมประโคมมาหลายวันว่าจะส่ง "นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" ลงชน
สรุปว่า นายณัฐวุฒินอนพักผ่อนอยู่ในคุกต่อไป ส่วนนายก่อแก้ว พิกุลทอง คนที่ไปมอบตัวทีหลังพร้อมกับนายวีระ มุสิกพงศ์ นั่นแหละ จะได้รับการเบิกตัวจากคุกออกมาสมัครซ่อม ส.ส.
คุณก่อแก้ว พื้นเพดูเหมือนเป็นคนพังงานะครับ แต่มาโตในกรุงเทพฯ เป็นคนเก่งคนหนึ่ง จบวิศวะเจ้าคุณทหารลาดกระบัง บางคนอาจสงสัยว่า "แดงเข้าเลือด" ได้อย่างไร และปกติก็ไม่มีใครเห็นหน้าค่าตา และไม่ปรากฏบทบาททางบู๊ล้างผลาญ หรือทางบุ๋นมาก่อน จะมาเห็นหน้ากันก็หลังปฏิวัติ ๑๙ กันยา ๔๙
ร่วมจตุ พร-ณัฐวุฒิจัดรายการพีทีวีบ้าง เป็นฮาร์ดคอร์ร่วมขบวนการ นปช.รุ่นบุกเบิกบ้าง มีวีรกรรมบุกไปพังบ้านท่านประธานองคมนตรี "พลเอกเปรม ติณสูลานนท์" ร่วมกับท่านรองประธานสภา "พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย" บ้าง จนสุดท้ายมาถึงรุ่น "กบฏเผาบ้าน-เผาเมือง" ล่าสุดนี่แหละ
เท่าที่ดู สมัยรัฐบาลทักษิณ ถ้าจำไม่ผิดตอนที่ "นายภูมิธรรม" เป็น รมช.คมนาคม ได้ดึงตัวนายก่อแก้วมาเป็น "ผอ.ร.ส.พ." ความจริงเขาก็ใช้ความรู้ ความสามารถแก้ปัญหาหมักหมม ร.ส.พ.ได้สมเหตุ-สมผล คือเขาศึกษาว่า ร.ส.พ.ควรจะไปทางไหนดี?
จะยกเครื่องให้ทันยุค-ทันสมัยอยู่ต่อไป หรือมันไม่ไหว พอกันที จบกันแค่นี้ "เลิกไป" ดีกว่าให้มันอยู่แบบสะสมการขาดทุน
สุดท้ายทางบอร์ดก็เลือกทาง "เลิกกิจการ" ร.ส.พ. การเลิกนั้นนับว่านายก่อแก้วมีประวัติควบคู่ในฐานะผู้ชงเรื่อง "ปิดตำนาน" แต่เบื้องหลังเรื่องนี้เป็นอย่างไรผมไม่ทราบ เพียงแต่ได้ยินที่เขานินทากันว่า นายใหญ่ "ต้องการเอาที่ดิน" อันเป็นที่ตั้ง ร.ส.พ.ไปเล่นแร่แปรธาตุ อย่างที่ทำกับกิจการรัฐวิสาหกิจหลายๆ แห่งอยู่ในขณะนั้น
ถ้าไม่มีซิกแนล อะไรส่งมาจากนอกประเทศอีก นายก่อแก้วก็คงได้รับการประกันตัวออกมาลงสมัครส.ส. สมมุติว่าได้รับเลือกเป็น ส.ส.กทม.เขต ๖ แทนที่ ดร.ทิวา เงินยวง ด้วยคุณสมบัติ และความรู้ ความสามารถในการทำงาน ผมก็ว่านายก่อแก้วเขาก็โอเคนะ
นี่พูดกันตามเนื้อผ้า ส่วนใครจะบ้าสีแล้วตัดสินคน นั่นก็เชิญตามสบาย!
สำหรับบทบาท ทัศนคติ และรสนิยมทางการเมืองของนายก่อแก้วดังปรากฏ นั่นเป็นความชอบ และเหตุผลส่วนตัวของเขา จะเหมาว่าคนเสื้อแดง คนชอบทักษิณเป็นคนไม่ดี เป็นคนไม่รักชาติบ้านเมืองไปทั้งหมดเห็นจะไม่ใช่ และไม่ได้ด้วย เท่าที่ดูระยะหลัง ใกล้ๆ เวทีเสื้อแดงราชประสงค์จะปิดฉาก นายก่อแก้วดูจะอยู่ในมุม "ไม่เอาด้วย" กับความรุนแรง
ความจริงเขาจะชิ่ง หลบมากบดานกับนายวีระตอนนั้น ก่อนที่จะถูกพลโทดาว์พงษ์ "กระชับวงล้อม" ก็ย่อมได้ เพราะตอนนั้น "ความคิดเห็น" ในแกนนำแตกเป็น ๒ ฝ่าย ๒ ขั้วแล้ว
คือ ฝ่ายประนีประนอมกับข้อเสนอรัฐบาล กับฝ่ายฮาร์ดคอร์ ชวนชาวบ้าน "สู้ตายร่วมกัน" แต่ปรากฏว่า เอาเข้าจริง แรมโบ้กับพี่กี้ฝ่ายสู้ตาย สวมตีนหมาโกยแน่บ "เอาตัวรอด" ไปก่อนแล้ว แต่นายก่อแก้ว ซึ่งมีเหตุผลรับฟังได้มากกว่าถ้าจะหลบหน้าเอาตัวรอดไปก่อน เพราะตอนนั้นถือว่า "เดินคนละแนวคิด" แล้ว
แต่จนถึงนาทีสุดท้าย ถ้าจำไม่ผิด กระทั่งเช้าวันที่ ๑๙ พ.ค. นายก่อแก้วก็ยังปรากฏตัวอยู่บนเวที มันก็มีความหมายในแนวเดียวตามทัศนะของผมคือ "คนไม่ทิ้งเพื่อน" ในเมื่อร่วมหัว-จมท้าย ไม่ว่า "นรก-สวรรค์" อยู่ก็อยู่ ตายก็ตายด้วยกัน ความคิดนักสู้จริงๆ แล้วมันไม่มีอะไรยุ่งยาก ซับซ้อนหรอก!
ก็นั่นแหละ ทั้งหลาย-ทั้งปวง โชคดีแล้วที่ตัดสินใจไม่เบิกตัวนายณัฐวุฒิให้เอาหัวมาล่อเป้า เพราะทุกคนก็รู้ ไม่ว่า นายเล็ก นายใหญ่ นายรอง นายหญิง ไม่ว่าหญิงใหญ่ หญิงน้อย หญิงนิด หญิงหน่อย อะไรทั้งนั้น เอาใครลงสมัครก็ได้ มัน "แค่สมัคร" เท่านั้น อย่าไปหวังชนะคะคานอะไรเลย

เจตนาเพียงต้องการใช้ โอกาสนี้ "ตั้งเวที" สำรากทางการเมืองว่าด้วยเรื่องแถกเหงือกเถลือกไถลว่า "ไอ้แดงเทียม" มันยิง มันเผาเมืองเท่านั้น ส่วนแดงทักษิณ แดงตู่ แดงเต้น แดงกี้ แดงแรมโบ้ ใครต่อใครทั้งหลายในขบวนการกบฏ บ่ฮู้ บ่หัน บ่ดัน บ่เข้า ทุกคน!
ก็ได้สมใจตู่แล้วนี่ ต้องไปสนใจอะไรว่าจะได้ใครลงสมัคร!
ได้ ตั้งเวที "ลองเครื่อง" ระดมพลแดงท่ามกลางบรรยากาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มันดีจะตายไป แต่ถ้าเกิดเครื่องติด จะได้ตะลิดตึ๊ดชึ่งต่อมันไปซะเลย!!

ที่ ผ่านมา เสื้อแดงทั้งเวทีป้อนข้อมูลมั่ว หรือไม่มั่วอยู่ฝ่ายเดียว เลือกตั้งซ่อมเกิดเงื่อนไขธรรมชาติ ให้มีฝ่ายรัฐบาลออกมาตั้งเวทีมั่วประชันด้วย และยิ่งกว่านั้น อาจจะมีพรรคเกิดใหม่อย่างพรรคการเมืองใหม่ส่งตัวแทนลงสมัคร เขาก็จะได้ตั้งเวทีเสื้อเหลือง "สาธยายหลักการ" เสริมสีสันการเมือง ๓ ฝ่ายตามสไตล์ร่วมวง

๓ ธง ๓ สี แต่ไม่ใช่ "ไตรรงค์ สุวรรณคีรี" ซี้เสธ.แดงนะ หากแต่สนามเลือกตั้ง กทม.เขต ๖ นี้จะมีทั้งธงเหลือง ธงแดง และธงสีฟ้า เลือกตั้งเสร็จก็คอยดูกันว่า ช่องกากบาท เบอร์เหลือง-เบอร์แดง-เบอร์ฟ้า กับช่อง "ไม่ลงคะแนนให้ใคร" ช่องไหนจะมาวิน เทเลอร์?
ช่อง "ไม่ออกเสียง" คะแนนนำล่ะก็ คงได้หัวร่อกันกะปริบปราย บอกไม่เชื่อ!

หาเสียงคราวนี้ ใครก็อย่าทำเป็นซ่าไป โดยเฉพาะท่านนายกฯ ถ้าแน่ใจว่า กทม.เขต ๖ เป็นของข้า ใครอย่าแหยมล่ะก็ ท่านก็ไม่จำเป็นต้องขึ้นไปโชว์รูปหล่อบนหลังรถ หรือนวยนาดขึ้นเวทีปราศรัยให้ประเจิด-ประเจ้อ ท่านเป็นเด็กนอก แต่ผมน่ะ พูดแล้วจะหาว่าคุย ระดับลูกศิษย์ท่านเจ้าอาวาสนะ ฉะนั้น จะถามท่านคำ
"รู้จัก เป้าบิน" มั้ย?

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

 

ASTV ผู้จัดการ News

กรุงเทพธุรกิจ - ข่าวหน้าแรก

เกาะติดสื่อ ตามข่าวร้อน Copyright © 2009 WoodMag is Designed by Ipietoon for Free Blogger Template