แก้ รธน. ล้วนแต่เพื่อนักการเมือง

ไทยรัฐ : มติของคณะกรรมการบริหาร และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ร่วมกับพรรค ร่วมรัฐบาลในการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ประเด็น ถึงแม้จะมีเสียงขู่ว่าถ้าไม่ร่วมมือ ขอให้เตรียมรับมือการยุบสภาได้เลยก็ตาม แสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะแตกหักกับพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมที่จะยุบสภา และพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้าน โดยอ้างว่าจะต้องเป็นเสาหลักในการบริหารบ้านเมืองด้วยความซื่อสัตย์

พรรค ประชาธิปัตย์เชื่อมั่นว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่พร้อมที่จะแตกแถว หรือถอนตัวออกจากรัฐบาล เพราะยังไม่มีพรรคไหนที่พร้อมจะให้มีการยุบสภา และกลับไปขอการสนับสนุนจากประชาชนในการเลือกตั้งใหม่ในเร็ววันนี้ เนื่องจากยังไม่มีทุนในการหาเสียง (หรือการซื้อเสียง) อย่างพอเพียง ยังไม่ได้สร้างผลงานจากการใช้จ่ายงบประมาณตามโครงการต่างๆ อีกหลายแสนล้านบาท

มติของพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าจะถูกโจมตีว่าเป็นการหักหลัง หรือไม่รักษาสัญญาสุภาพบุรุษที่ให้ไว้กับพรรคร่วมรัฐบาล ก็ไม่แน่ชัด เพราะไม่ทราบชัดว่าเป็นการสัญญาในเรื่องใด สัญญาว่าจะร่วมมือแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการจำเพาะเจาะจงในประเด็นใด หรือเป็นสัญญาโดยทั่วไป และถ้ามองในอีกแง่หนึ่งพรรคร่วมรัฐบาลเป็นฝ่ายหักหน้าก่อน ด้วยการเดินหน้าแก้ไขโดยไม่ฟังเสียงประชาธิปัตย์

อย่างไรก็ตาม จากมติของพรรค ประชาธิปัตย์เรื่องนี้ พรรคร่วมรัฐบาลสามารถแก้แค้นได้ในทันที ดั่งที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยขู่แล้วว่า เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ให้ ส.ส.ออกเสียง โดยอิสระ หรือฟรีโหวต ต่อไปนี้พรรคร่วมรัฐบาลก็จะให้ฟรีโหวตเช่นเดียวกัน ในทุกญัตติที่มีการลงมติในสภา ญัตติแรกที่ทำได้ทันที คือการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย ฝ่ายค้าน

การ แก้ไขหรือไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้เป็นเขตใหญ่ เขตละไม่เกิน 3 คน โดยอ้างว่าเพื่อให้การซื้อเสียงทำได้ยาก ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลอยากให้เป็นเขตละ 1 คน โดย อ้างว่าเป็นความต้องการของประชาชน แต่แท้ ที่จริง ทุกพรรคต่างมุ่งรักษาผลประโยชน์ของตน เพราะเชื่อว่าการแบ่งเขตแบบของตนจะทำให้ พรรคของตนชนะเลือกตั้ง

พรรค ชาติไทยพัฒนาต้องการให้เป็นเขตละ 1 คน เพราะถ้าเป็นเขตใหญ่อย่างในขณะนี้ อาจต้องสูญเสียฐานเสียงในภาคกลางอีกมาก จนเหลือแค่สุพรรณบุรีกับจังหวัดใกล้เคียง ส่วนพรรคภูมิใจไทยก็ชอบเขตเล็ก เพราะเชื่อว่าจะสามารถเจาะเป็นเขตๆได้ ในภาคอีสาน ส่วนพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคเก่าแก่และใหญ่ มีเสียงกระจายอยู่ทั่วประเทศและในทุกภาค จึงชอบเขตใหญ่แบบในปัจจุบัน

พรรค การเมืองจะแก้ไข หรือไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญก็ตาม แต่ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งก็คือ ขณะนี้ ประเทศไทยตกอยู่ในวิกฤติรอบด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ข่าวลือการปฏิวัติรัฐประหาร กลุ่มคนเสื้อแดง ประกาศสงครามครั้งสุดท้าย เพื่อล้มรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยเตรียมเปิดอภิปรายล้มรัฐบาลในสภา น่าเป็นห่วงว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ ถ้ารัฐบาลที่ไม่เข้มแข็งจะเอาบ้านเมืองรอดหรือไม่?

ข่าว แก้ไขรัฐธรรมนูญ ข่าวการเมือง จากไทยรัฐ