อำนาจสูงสุด ไม่ใช่ของนักการเมือง

เดลินิวส์ : รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ.ศ.2550 เป็นฉบับที่นักการเมืองเรียกร้องขอแก้ไข ตั้งแต่เริ่มประกาศใช้ ทั้งๆที่เป็นฉบับเดียวที่ผ่านการออกเสียงประชามติ โดยประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเสียงข้างมาก เห็นชอบให้นำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มาใช้บังคับ โดยพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งมีพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นหลักได้ชักชวนพรรคอื่นเป็นแนวร่วม จนพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำรัฐบาล ต้องนำเข้าหารือในการสัมมนาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพรรค ที่ จ.กระบี่ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่มีข้อยุติ ต้องรอให้กรรมการบริหารพรรคตัดสิน

ประเด็นการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ มี 2 เรื่อง ได้แก่ การลงนามในข้อตกลงที่ผลผูกพันระหว่างประเทศ ที่รัฐธรรมนูญกำหนดว่าต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภาก่อน ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศเสียโอกาสการแข่งขัน ขาดความคล่องตัวในการเจรจาระหว่างประเทศ อีกเรื่อง เกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั้ง รวมถึงที่มาของ ส.ส. โดยมีข้ออ้างว่าปัจจุบันประชาชนไม่ได้รับการดูแลที่เท่าเทียมจาก ส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม พิจารณาสิ่งที่ต้องการแก้ไข อาจถูกโต้แย้งว่าเป็นการเอื้อประโยชน์แก่นักการเมืองมากกว่าประชาชน จึงมีผู้ไม่เห็นด้วยอยู่ไม่น้อย

สำหรับสาระที่ขอแก้ไขรัฐธรรมนูญด้านหนึ่งเป็น การขอปรับ เพื่อให้ฝ่ายบริหารทำงานสะดวกขึ้นในการเจรจาระหว่างประเทศ ส่วนการแบ่งเขตเลือกตั้งและที่มาของ ส.ส.ก็เป็นเพียงกติกา ที่มิได้กระทบต่อหลักการประชาธิปไตย การดำเนินการเพื่อแก้ไขจึงมิใช่เรื่องยอมรับไม่ได้ เพียงแต่คณะผู้ขอแก้ไข ควรให้ความสำคัญต่อประชามติเสียงข้างมากที่เห็นชอบให้ใช้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับ นี้ และแสดงเหตุผล พร้อมข้อมูลหลักการ อันน่าเชื่อถือถึงความจำเป็นในการขอแก้ไข มิใช่คำนึงแต่การรวบรวมคะแนนเสียงในสภาเท่านั้น

การที่นักการเมืองพิจารณาว่ารัฐธรรมนูญซึ่งเป็น กฎหมายสูงสุดของประเทศเป็นปัญหาแก่การบริหาร หรือเป็นอุปสรรคแก่การดูแลประชาชน มีผลต่อการได้มาของจำนวน ส.ส. ของแต่ละพรรค ซึ่งน่าจะถือว่าพรรคการเมืองมีส่วนได้เสียกับการแก้ไข จึงควรตระหนักต่อหลักที่ว่าอธิปไตยหรืออำนาจสูงสุดเป็นของปวงชนชาวไทย โดยไม่ละเลยการฟังเสียงประชาชน และไม่ลืมว่า ส.ส. และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ที่ไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมายหรือความครอบงำใด ๆ ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของปวงชนชาวไทย โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน.์

ข่าว แก้ไขรัฐธรรมนูญ ข่าวการเมือง จาก เดลินิวส์