ข่าวเด่น ข่าวร้อนวันนี้ : กรุงเทพธุรกิจ

13 ธันวาคม 2552

มาบตาพุด ก๊าซรั่ว อพยพ 200 ขีวิต

Suthichaiyoon.com : "มาบตาพุด"ป่วนก๊าซรั่วซ้ำอีก อพยพ 200 ชีวิตหนีอลหม่าน-หาม 6 คนงานส่งโรงพยาบาล

นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดป่วน เกิดก๊าซรั่วซ้ำอีก กลิ่นเหม็นคลุ้งกระจาย ต้องอพยพ 200 คนงานหนีอลหม่าน หาม 6 รายส่งโรงพยาบาลรักษา ก่อนแพทย์อนุญาตให้กลับได้ รองผู้ว่าการ กนอ.รับยังไม่พบต้นตอจุดเกิดเหตุ คาดอาจเกิดจากโรงงานที่หยุดดำเนินการ ด้านนายกสมาคมต่อต้านโลกร้อน โวยกรรมการ 4 ฝ่ายภาครัฐมีเจตนาจ้องล้มโครงการอุตสาหกรรมประเภทรุนแรงของภาคประชาสังคม ทั้งที่ตกลงกันจนได้ข้อยุติแล้ว เหตุมีนักการเมืองต้องการผลักดันโครงการขนาดใหญ่ โดยไม่ต้องทำเอชไอเอ และกันไม่ให้ประชาชนเข้ามีส่วนร่วม โดยเฉพาะโครงการผันน้ำโขงมาสู่ภาคอีสาน

เมื่อวานนี้ (12 ธ.ค.) เกิดเหตุกลิ่นเหม็นก๊าซกระจายอยู่ทั่วบริเวณใกล้โรงไฟฟ้าโกลว์ ถนนไอ 5 นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง เมื่อเวลา 08.30 น.วานนี้ (12 ธ.ค.) กระทั่งต้องมีการอพยพคนงานก่อสร้าง รวมทั้งพนักงานโรงงานสยามแผ่นเหล็กวิลาศ และพนักงานโรงงานใกล้เคียงหนี ทั้งนี้ มีคนงานก่อสร้างใกล้โรงไฟฟ้าโกลว์ได้รับกลิ่นเหม็นก๊าซ มีอาการแสบคอ วิงเวียนศีรษะ แน่นหน้าอก ต้องนำส่งโรงพยาบาลมาบตาพุด จำนวน 6 คน หลังแพทย์ตรวจอาการให้ยาเรียบร้อย ก็อนุญาตให้กลับได้

นายธำนุวัฒน์ เวียนขุนทด พนักงานโรงงานสยามแผ่นเหล็กวิลาศ กล่าวว่า ทางโรงงานได้ประกาศรวมพลอพยพพนักงานออกจากโรงงาน เนื่องจากมีกลิ่นเหม็นก๊าซมาก จากนั้นพนักงานได้ขึ้นรถยนต์หลายคันมารวมตัวกันที่ศูนย์ราชการ จ.ระยอง รวมทั้งพนักงานโรงงานอื่นประมาณ 200 คน เพื่อให้พ้นกลิ่นเหม็นก๊าซ แต่ไม่ทราบว่ากลิ่นเหม็นมาจากโรงงานใด และเป็นที่น่าแปลกใจ ทำไมต้องมาเกิดเหตุการณ์ก๊าซรั่วติดๆ กัน เรื่องนี้ไม่ทราบว่ามีอะไรแอบแฝงหรือไม่

นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม รองผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า เมื่อเกิดเหตุเจ้าหน้าที่การนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ได้เข้าไปประสานในการอพยพคนงานก่อสร้างทั้งหมด ไปอยู่เหนือลมบริเวณการเคหะแห่งชาติ ใกล้ สภ.ห้วยโป่ง พร้อมนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลมาบตาพุด 6 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นคนงานโรงไฟฟ้าโกลว์ หลังแพทย์ได้ตรวจอาการแล้วอนุญาตให้กลับได้

หลังเกิดเหตุได้เข้าไปตรวจที่หน้าโรงงานปุ๋ยแห่งชาติก่อน เพราะโรงงานอยู่เหนือทิศทางลม และขอเข้าตรวจภายในโรงงาน ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด ปัจจุบันนี้ โรงงานปุ๋ยไม่ได้ประกอบกิจการมานานแล้ว จากนั้นก็ไปตรวจบริเวณโรงกลั่นน้ำมันเออาร์ ก็ไม่พบกลิ่นผิดปกติ จากนั้นจึงได้แจ้งนายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าฯ ระยอง และสั่งการให้ตั้งทีมงานร่วมกันหลายฝ่ายเข้าตรวจสอบ ประกอบด้วยภาครัฐ หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ และเจ้าหน้าที่การนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยตั้งเป็น 3 ทีม พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือเข้าตรวจสอบโรงงานที่ต้องสงสัยอีกครั้งเริ่มตั้งแต่เวลา 13.00 น. จนถึงเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน เพื่อเตรียมสรุปให้ผู้ว่าฯ ทราบ เพราะขณะนี้ ยังไม่ทราบว่าก๊าซรั่วเกิดจากโรงงานใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังกลิ่นก๊าซเจือจางลง คนงานก่อสร้างบางกลุ่มได้กลับเข้าไปในบริเวณก่อสร้าง เพื่อทำงานต่อแล้ว

"ไออาร์ซีพี" ปล่อยควันดำทะมึนท้องฟ้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน ที่โรงงานไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หมู่ 5 ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง มีกลุ่มควันดำทะมึนลอยจับท้องฟ้ามืดมิด และมีกลิ่นเหม็นก๊าซฟุ้งกระจาย ทำให้ชาวบ้านแตกตื่น รวมทั้งผู้ที่ขับรถยนต์ผ่านไปมาบนถนนสุขุมวิทแวะจอดดูกันจำนวนมาก ไฟฟ้าภายในโรงงานไออาร์พีซีดับ ต่อมา ร.ท.สุพล นวลมณี ตัวแทนโรงงานไออาร์พีซี ชี้แจงว่าเกิดจากโรงไฟฟ้าระยอง 1 ส่งกระแสไฟมายังไออาร์พีซีไม่เต็ม ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าขัดข้อง จึงต้องมีการตัดระบบในขบวนการผลิต ทำให้เกิดกลุ่มควันสีดำจำนวนมาก ขณะนี้ เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

กนอ.คาดก๊าซรั่วอาจเกิดจากหยุดดำเนินการ

วันเดียวกัน การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกลิ่นก๊าซในพื้นที่มาบตาพุด โดยคาดว่าสาเหตุในเบื้องต้นเกิดจากโรงงานได้รับคำสั่งให้หยุดดำเนินการ จึงทำให้เกิดปัญหาทางเทคนิค ซึ่งทำให้เกิดมลภาวะดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในรายละเอียดเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ศูนย์เฝ้าระวังและติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อม กนอ. ก็จะดำเนินการติดตาม และเฝ้าสังเกตโดยใกล้ชิดอย่างต่อเนื่องต่อไป โดย กนอ. ได้ประสานรายงานผู้ว่าฯ ระยอง เพื่อทราบเป็นระยะแล้ว และในระหว่างนี้ กนอ.จะได้จัดทีมเฝ้าระวังร่วมกับชาวบ้านโดยใกล้ชิดต่อไป

โวยกรรมการ 4 ฝ่ายภาครัฐจ้องล้มโครงการรุนแรง

นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ในฐานะคณะกรรมการคู่ขนานในการติดตามตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการ 4 ฝ่ายในการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามมาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ 2550 ที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ 4 ฝ่ายได้ประชุมนัดพิเศษขึ้นที่บ้านพิษณุโลก เพื่อเร่งรัดการพิจารณาประเด็นต่างๆ ให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว โดยเฉพาะเครื่องมือการทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ หรือเอชไอเอ (HIA) ตามแนวทางของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ

แต่ประเด็นที่ได้มีการหยิบยกขึ้นมาพิจารณากันใหม่ คือ โครงการหรือกิจกรรมใดควรเป็นโครงการประเภทรุนแรง ที่จะต้องทำรายงานเอชไอเอ และต้องดำเนินการให้ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสอง โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวได้เคยมีข้อยุติแล้ว เมื่อคราวการประชุมสัญจรที่มาบตาพุด ว่า จะนำ 19 โครงการที่เคยผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชนทั่วประเทศมาแล้ว มาเป็นหลักในการประกาศบังคับใช้ได้ต่อไป เพื่อที่ภาคเอกชนหรือผู้ประกอบการจะได้ใช้เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และคำสั่งศาลปกครองสูงสุดได้

แต่เรื่องดังกล่าวกลับถูกรื้อฟื้นนำกลับมาทบทวนใหม่ โดยฝ่ายข้าราชการระดับสูง และนักการเมืองที่นั่งเป็นกรรมการอยู่ ซึ่งอาจถูกใบสั่งจากรัฐบาลหรือนักการเมืองเจ้ากระทรวงสั่งมาให้ล้มมติการยอมรับ 19 โครงการดังกล่าวที่เคยได้ข้อยุติแล้วเสีย เพราะหนึ่งในนั้นมีโครงการผันน้ำข้ามลุ่มน้ำอยู่ด้วย โดยเฉพาะลุ่มน้ำนานาชาติ คือ แม่น้ำโขง ที่มีนักการเมืองใหญ่ที่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง แต่ได้เป็นรัฐมนตรีพยายามผลักดันโครงการดังกล่าวอยู่อย่างลุกลี้ลุกลน จนในที่สุดในที่ประชุมคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ไม่สามารถหาข้อยุติได้เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้

เตือนยกเว้นบางโครงการต้องสู้กันในศาล

ขอเตือนให้ข้าราชการจำพวกดังกล่าวและนักการเมืองที่เกี่ยวข้อง พึงสังวรต่อคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดให้ดี อย่าพยายามเล่นเล่ห์เพทุบาย โดยหวังที่จะใช้คณะกรรมการ 4 ฝ่ายเป็นข้ออ้างในการสนองตอบต่อความต้องการของตนเอง แล้วไปร้องขอต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อปลดล็อกโครงการต่างๆ ทั้ง 65 โครงการได้โดยง่ายๆ

เพราะในคำสั่งศาลปกครองยืนยันถึงสิทธิของประชาชน ที่ดำเนินการมาอย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญแล้ว เกี่ยวกับการยื่นเสนอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้นำ 19 โครงการ หรือกิจกรรมประเภทรุนแรงไปประกาศบังคับใช้ หากมีการหลบเลี่ยงหรือยกเว้นบางโครงการที่นักการเมืองไม่ต้องการ ก็ต้องไปต่อสู้กันในชั้นศาลต่อไป เรื่องนี้ภาคประชาสังคมยอมไม่ได้

นอกจากนี้แล้ว มีความพยายามเจรจาต่อรองกันของนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการกับรัฐบาลว่า หากภาครัฐสามารถช่วยทำให้ศาลปกครองปลดล็อกโครงการทั้ง 65 โครงการให้ได้โดยเร็ว โดยการกำหนดหลักเกณฑ์ หรือเครื่องมือการดำเนินงานตามรัฐธรรมนูญให้สามารถนำไปใช้ หรือปฏิบัติได้โดยง่ายๆ มีองค์การอิสระที่ราชการสามารถควบคุมสั่งการได้

รวมทั้งการขอให้นำรายงานอีไอเอที่เคยทำแล้วของผู้ประกอบการมาใช้ได้เลย โดยไม่ต้องนำกลับไปทบทวนใหม่ ผู้ประกอบการก็จะไม่ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับหน่วยงานรัฐและรัฐบาล ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าว ขอประณามและประกาศโดยทั่วกัน ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความอัปยศอดสูที่สุด และจะต้องได้รับการตอบโต้อย่างสาสมในเร็ววัน หากนายกรัฐมนตรีอยู่ในกระบวนการนี้ด้วย

คาดก๊าซรั่วรู้ผลวันอังคารหน้า

เย็นวันเดียวกัน ที่ห้องประชุมสำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าฯ ระยอง แถลงข่าวกรณีเกิดกลิ่นก๊าซรั่วในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยมีนายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม รองผู้ว่าการ กนอ. นายสมพงษ์ โสภณ นายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุดร่วม

นายสยุมพร กล่าวว่า หลังเกิดเหตุโรงไฟฟ้าโกลว์ ได้อพยพคนงานทั้งหมด 1,800 คน มารวมตัวอยู่เหนือลม บริเวณหน้าโรงงาน และมีพนักงานโรงงานอีก 2 โรงที่อยู่ใกล้ ก็ได้กลิ่นเหม็นก๊าซเช่นเดียวกัน ทำให้คนงานรวม 6 คน มีอาการแสบคอ เวียนศีรษะ จึงต้องนำส่ง รพ.มาบตาพุด ผลการตรวจไม่มีอาการที่รุนแรง และให้กลับบ้านทั้ง 6 คน

นายสยุมพร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ร่วมตรวจสอบการตรวจวัดคุณภาพอากาศ 3 สถานี สถานีบ้านตากวน บ้านหนองแฟบ และเมืองใหม่ ทั้งนี้ พบว่าผลการตรวจที่ผิดปกติที่สถานีเมืองใหม่ มีค่าคาร์บอนไดออกไซด์ สูงกว่าปกติ 2-3 เท่า ส่วนอีก 2 สถานีปกติ นอกจากนี้ ชุดปฏิบัติการ 3 ชุด ที่ออกตรวจผลสรุปคาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุการที่จะมีเหตุใดเหตุหนึ่งเกิดขึ้น คือ อาจจะมีก๊าซรั่ว การล้างถังก๊าซ และการกำจัดขยะกากอุตสาหกรรม เหตุใดเหตุหนึ่ง จนทำให้เกิดกลิ่นก๊าซมีแนวพาดผ่านมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ลงมาสู่พื้นที่โรงไฟฟ้าโกลว์

นายวีรพงศ์ กล่าวว่า กนอ.จะเริ่มตรวจสอบตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (13 ธ.ค.) และจะให้จบภายในวันอังคาร ส่วนนอกนิคมให้อุตสาหกรรมจังหวัดออกตรวจสอบ หลังจากนั้น จะสรุปว่ากลิ่นเหม็นก๊าซดังกล่าว เกิดจากอะไรและบริเวณไหน

ที่มา ข่าวมาบตาพุด ข่าวสิ่งแวดล้อม ข่าวอุบัติเหตุ จาก Suthichaiyoon.com

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

 

ASTV ผู้จัดการ News

กรุงเทพธุรกิจ - ข่าวหน้าแรก

เกาะติดสื่อ ตามข่าวร้อน Copyright © 2009 WoodMag is Designed by Ipietoon for Free Blogger Template