ประชาชาติธุรกิจ : เปิดเครือข่ายธุรกิจ 2 พันล้าน เจ้าแม่"ไพรม์เนเจอร์กรุ๊ป" ชนวนมรณะ ...ฤาแตกหัก จนต้องสั่งเก็บ ?

สิ้นเสียง ปืน.. ปริศนา ความตายของ สุนัทที เนื่องจำนงค์ เจ้าแม่"ไพรม์เนเจอร์กรุ๊ป" ยังดำมืด สามีของเธอ เชื่อว่า น่าจะมีมูลเหตุจากปมธุรกิจ เพราะเธอมีคดีในศาลกว่า 30 คดี แฟ้มข่าวสายอสังหาฯ เผยว่า เธอเป็นนักลงทุนสไตล์ กล้าได้กล้าเสีย ใจนักเลง ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ เปิดเครือข่ายธุรกิจ 5 บริษัทใหญ่ มูลค่า 2.4 พันล้าน

... สุนัทที มีบริษัทที่ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 5 แห่ง ดังนี้ 1.บริษัท ลิฟวิ่ง ลากูน จำกัด ,2.บริษัท ไพร์ม เนเจอร์ วิลล่า จำกัด ,3.บริษัท กาล่า แพลน จำกัด ,4.บริษัท ไพร์ม เนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด และ 5.บริษัท ไพร์ม เนเจอร์ หัวหิน บีช จำกัด

1.บริษัท ลิฟวิ่ง ลากูน จำกัด จดทะเบียนตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2545 ด้วยทุน 3 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 101 หมู่ที่ 9 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
กรรมการบริษัทมี 2 คน คือนางสุนัทที และ น.ส.คณัสญานุช วันประชุมผู้ถือหุ้น 30 เมษายน 2551 ระบุว่า นางสุนัทที มีสัดส่วนการถือหุ้น ร้อยละ 89.98 คิดเป็นเงิน 2,699,500 บาท ,น.ส.คณัสญานุช มีสัดส่วนการถือหุ้น ร้อยละ 3.33 คิดเป็น 100,100 บาท

นายพรรณธฤต ร้อยละ 3.33 คิดเป็น 100,100 บาท ,นางปานจิต โรจนวณิชชากร 3.33 คิดเป็น 1 แสนบาท
นอกนั้นผู้ถือหุ้นถือคนละ 1 หุ้น คือ นางฐาปนี สุดลาภา ,น.ส.ปราณี กมลเมือง และ พล.ต.ต.ปิยะชาติ เนื่องจำนงค์

งบการเงินปี 2550แจ้งว่า มีสินทรัพย์ 548 ล้านบาท ,หนี้สินรวม 526 ล้านบาท มีกำไร 19.7 ล้านบาท
2.บริษัท ไพร์ม เนเจอร์ วิลล่า จำกัด จดทะเบียนตั้งบริษัท เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2545 (วันเดียวกับ บริษัท ลิฟวิ่ง ลากูน จำกัด) ตั้งอยู่ที่ 99/93 หมู่ที่ 9 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ประกอบธุรกิจขนาดเล็ก ด้วยทุน 3 ล้านบาท ต่อมาเพิ่มทุนเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2546 เป็น 100 ล้านบาท

วันประชุมผู้ถือหุ้น 30 เมษายน 2551 ระบุว่า นางสุนัทที ถือหุ้นร้อยละ 80 คิดเป็นเงิน 80 ล้านบาท ,นายสุพรชัย กองพัฒนากูล ถือสัดส่วนร้อยละ 10 ,น.ส.คณัสญานุช สัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 2.5 ,พล.ต.ต.ปิยะชาติ ร้อยละ 2.5 ,นายพรรณธฤต ร้อยละ 2.5,นายพนม กาญจนเทียบเท่า ร้อยละ 2 และ นายศุภสิทธิ์ โรจนวณิชชากร ร้อยละ 0.5

งบการเงินปี 2550 ระบุว่ามีสินทรัพย์รวม 831 ล้านบาท ,หนี้สิน 728 ล้านบาท มีกำไร 3 ล้านบาท
3.บริษัท กาล่า แพลน จำกัด จดทะเบียนตั้งบริษัท เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2546 ตั้งอยู่ที่ 99/97 หมู่ที่ 9 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ด้วยทุน 1 ล้านบาท ต่อมาเพิ่มทุนเป็น 20 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2548

บริษัท กาล่าฯ มีผู้ถือหุ้น 10 ราย โดยที่ผู้ถือหุ้นใหญ่คือ นางสุนัทที ในสัดส่วนร้อยละ 80 คิดเป็นเงิน 16 ล้านบาท รองลงมาคือ นายพรรณธฤต สัดส่วนร้อยละ 9.9 ,น.ส.ฑีรนาฏ ร้อยละ 7.5 ,น.ส.กัญสราณัฐ ร้อยละ 2.49
นอกนั้นถือคนละ 1 หุ้น ได้แก่ น.ส.จันทนา กองพัฒนากูล ,น.ส.ภาณุมาศ กองพัฒนากูล ,น.ส.วิยุดา โชคเฉลิมวัฒน์ ,น.ส.สุดา ทรงอุดมวัฒนา ,น.ส.สุภาพร กองพัฒนากูล และนายสุเมธ กองพัฒนากูล

งบการเงินปี 2551 ระบุว่ามีสินทรัพย์รวม 901 ล้านบาท ,หนี้สินรวม 979 ล้านบาท ขาดทุน 97 ล้านบาท
4.บริษัท ไพร์ม เนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2546 ตั้งอยู่ที่ 99/97 หมู่ที่ 9 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ด้วยทุน 1 ล้านบาท

โดยมีสำนักงานอยู่ที่ 947 อาคารทศพลแลนด์ 3 ชั้น 7 E ถ.บางนา-ตราด กม.3 แขวงและเขตบางนา กทม.
กรรมการบริษัทมี 2 คนคือ นางสุนัทที และ นายศุภสิทธิ์ โรจนวณิชชากร

ส่วนผู้ถือหุ้น ได้แก่ นางสุนัทที อัตราส่วนร้อยละ 72 ,พล.ต.ต.ปิยะชาติ ร้อยละ 10 ,นายพรรณธฤต ร้อยละ 9.99 ,นายศุภสิทธิ์ ร้อยละ 8

นอกนั้นถือคนละ 1 หุ้น ได้แก่ นางฐาปนี สุดลาภา ,น.ส.ฑีรนาฏ และ น.ส.พรรณปพร โภคา
งบการเงินปี 2550 ระบุว่า มีสินทรัพย์รวม 137.7 ล้านบาท ,มีหนี้สิน 173 ล้านบาท ผลประกอบการล่าสุดขาดทุน 36.7 ล้านบาท

5.บริษัท ไพร์ม เนเจอร์ หัวหิน บีช จำกัด จดทะเบียนตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2548 ตั้งอยู่ที่ 99/97 หมู่ที่ 9 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จสมุทรปราการ (ที่เดียวกับ บริษัท กาล่า แพลน จำกัด และ บริษัท ไพร์ม เนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด) ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็ก ด้วยทุน 1 ล้านบาท ก่อนที่จะเพิ่มทุนเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2548 (หลังจากตั้งบริษัท 28 วัน) เป็น 20 ล้านบาท

วันประชุมผู้ถือหุ้น 30 เมษายน 2552 ที่ผ่านมาระบุว่า บริษัท ไพร์ม เนเจอร์ หัวหินฯ มีกรรมการ 2 คนคือ นางสุนัทที และ นายสุพร กองพัฒนากูล

ผู้ถือหุ้น นางสุนัทที ร้อยละ 79.99 คิดเป็นเงิน 15.99 ล้านบาท ,นายสุพรชัย ร้อยละ 20
นอกนั้นถือคนละ 1 หุ้น ได้แก่ นางธรรณา โพธิ์ทอง ,พล.ต.ต.ปิยะชาติ ,นายพรรณธฤต ,น.ส.พรรณปพร โภคา และ นายศุภสิทธิ์ โรจนวณิชชากร

งบการเงินปี 2550 ระบุว่า มีสินทรัพย์รวม 24 ล้านบาท ,หนี้สินรวม 7.5 ล้านบาท และขาดทุนสะสมรวม 3.5 ล้านบาท

หากนับเป็นจำนวนทรัพย์สินที่ นางสุนัทที ครอบครองในบริษัททั้ง 5 คิดแล้วเป็นเงินไม่น้อยกว่า 2,441 ล้านบาท

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบ นายสุพรชัย กองพัฒนากูล ซึ่งทำธุรกิจร่วมกับนางสุนัทที พบว่ามีบริษัทที่นายสุพรชัย เข้าไปถือหุ้นอีกเป็นจำนวน 29 บริษัท

กล่าวสำหรับ สุนัทที จะได้รับฉายาว่าเป็นเจ้าแม่อสังหาฯ อันมาจากสินทรัพย์มากกว่า 2 พันล้านบาท
ยังไม่นับคอนเนคชั่นในธุรกิจการเมือง

ที่มา ข่าวอาชญากรรม จาก ประชาชาติธุรกิจ