ข่าวเด่น ข่าวร้อนวันนี้ : กรุงเทพธุรกิจ

26 กุมภาพันธ์ 2553

ศาลตัดสินยึดทรัพย์“ทักษิณ” 7.6 หมื่นล้านเป็นของแผ่นดินวันนี้

สยามรัฐ : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา (25 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 1 กองร้อย พร้อมกำลังตำรวจนอกเครื่องแบบคอยดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างเข้มงวดบริเวณรอบ พื้นที่ศาลฎีกา ท่ามกลางสื่อมวลชนจำนวนมากที่ปักหลักรอคอยการทำข่าวการตัดสินคดียึดทรัพย์ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงของกลุ่มแดงสยามประมาณ 100 คนยังคงปักหลักนอนกันบริเวณท้องสนามหลวง พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร้องขอกำลังสารวัตรทหารจาก 3 เหล่าทัพจำนวน 100-200 นาย เพื่อมาช่วยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยใน 5 จุดสำคัญคือ ศาลฎีกา รัฐสภาทำเนียบรัฐบาล สวนจิตรลดา และบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ โดยจะมีการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยไปจนถึงช่วงกลางเดือนมี.ค. นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของศาลยุติธรรม และศาลฎีกาฯ ทุกคนพร้อมเต็มที่ในการรับมือต่อทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 04.00น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ทวิตเตอร์ผ่านทางเว็บไซต์http://www.thaksinlive.com ถึงกรณีผลการตัดสินคดียึดทรัพย์ของตนเอง ในวันนี้(26กพ.53) ข้อความว่า ไม่ว่าพรุ่งนี้ผลจะเป็นอย่างไร น้ำใจของพี่น้องที่ห่วงใยและคอยให้กำลังใจผม ครอบครัวนั้นมันยิ่งใหญ่ที่ผมและครอบครัวจะจดจำไปนานแสนนานไม่มีวันลืม ขอยืนยันว่าเงินทั้งหมดเป็นเงินที่ผมและครอบครัวหามาด้วยหยาดเหงื่อแรงงาน มันสมอง ไม่เคยโกงดังที่ถูกกล่าวหา เมื่อปี2537แสดงบัญชีไว้กว่า60,000ล้าน นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึง กรณีศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะอ่านคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะคอยติดตามข่าวสาร และรอฟังคำพิพากษาอยู่ที่นครดูไบ ซึ่งในวันนี้ (26 ก.พ.)เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว เวลา 20.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ คงจะออกพูดคุยออกอากาศผ่านรายทอล์ค อะราวด์ เดอะ เวิลด์ ส่วนการออกแถลงการณ์นั้น น่าจะมีในวันรุ่งขึ้น(27ก.พ.)

ในส่วนของแกนนำพรรคเพื่อไทยและผู้ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ นำโดยนายสมชาย และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นายพายัพ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมทั้ง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยนั้น ในวันพรุ่งนี้ จะมีจุดรวมตัวกันที่ทำการพรรคเพื่อไทย ถ.พระราม 4 ซึ่งได้เตรียมให้พ.ต.ท.ทักษิณ วิดีโอลิงค์เข้ามายังพรรคด้วย ทีมงานของตระกูลชินวัตรได้ส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือผู้สื่อข่าว แจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเกาะติดการตัดสินคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ และจะพูดสดผ่านเว็ปไซต์ WWW.VOICETV.CO.TH จากเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเร็ต ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป โดยจะมีนางสาวตวงพร อัศววิไล อดีตผู้ประกาศข่าวไอทีวีทำหน้าที่พิธีกร

สำหรับลำดับขั้นตอนการอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา แผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดียึดทรัพย์ 76,000ล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันนี้นั้น เวลา 08.00 น. - องค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คนประชุมร่วมกันที่ห้องประชุมบนอาคารศาลฎีกา โดยผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน คือ สมศักดิ์ เนตรมัย ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกาฯ นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน และจะถามความเห็นทีละคน ซึ่งผู้พิพากษาแต่ละคนต่างมีคำวินิจฉัยส่วนของตนเองอยู่แล้ว จากนั้นจะลงมติโดยใช้เสียงข้างมาก แล้วนำไปจัดทำโดยเขียนเป็นคำพิพากษากลาง ให้เป็นไปตามมติเสียงส่วนใหญ่ เพื่อเตรียมอ่านคำพิพากษาในช่วงบ่าย ในระหว่างการเขียนคำพิพากษาซึ่งผู้ช่วยผู้พิพากษาที่จะมาช่วยค้นคว้าข้อ กฎหมายต่างๆ องค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คน จะไม่สามารถออกมาจากห้องประชุมได้ รวมทั้งไม่สามารถนำเครื่องมือสื่อสารต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ เข้าไปในห้อง เพื่อป้องกันไม่ให้ผลประชุมรั่วไหล เช่นเดียวกับผู้ช่วยผู้พิพากษาที่จะมาช่วยเขียนคำพิพากษาจะถูกกักตัวหมดเช่น กัน โดยต้องนำมือถือมากองไว้รวมกัน และห้ามใช้มือถือในวันดังกล่าว จนกว่าคำพิพากษาจะอ่านเสร็จ เวลา 12.00น. เปิดให้เข้าห้องพิจารณาคดี ซึ่งมีความจุ 300-350 คน ผู้จะเข้าไปต้องผ่านการแลกบัตรและตรวจสแกนหาวัตถุระเบิดอย่างเข้มงวด

ขณะที่การเริ่มต้นอ่านคำพิพากษา ขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้เกี่ยวข้องในห้องพิจารณาคดี ไม่ว่าผู้ร้อง ผู้ถูกกล่าวหา ผู้คัดค้านการยึดทรัพย์ ทนายความรวมถึงประชาชนทั่วไป ที่ต้องอยู่ในความสงบเรียบร้อย และในระหว่างที่อยู่ในห้องพิจารณาคดี ห้ามนั่งไขว่ห้าง เวลา 13.30 น. องค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คนออกนั่งบัลลังก์พร้อมกัน และเริ่มอ่านคำพิพากษา โดยอนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพก่อนประมาณ 3 นาทีหลังจากนั้นจะ ให้ออกจากห้องและปิดห้องพิจารณาคดี โดยเริ่มอ่านคำพิพากษา ซึ่งอนุญาตให้สื่อ มวลชนที่ลงทะเบียนไว้ประมาณ 100 คน อยู่ร่วมฟัง คาดว่าจะใช้เวลาอ่านคำพิพากษา 4ชั่วโมง (มีการถ่ายทอดทางช่อง 11 และ วิทยุประเทศไทย แต่เป็นการถ่ายทอดเฉพาะเสียงในการอ่านคำพิพากษาให้ฟังโดยตลอด) หลังอ่านคำพิพากษา -นำไปลงในราชกิจจานุเบกษา ขณะที่คำพิพากษาส่วนตนของผู้พิพากษาแต่ละคน จะนำไปปิดประกาศไว้ที่หน้าศาลฎีกา และลงในเว็บไซต์ศาลฎีกา และศาลฎีกาเผยแพร่คำพิพากษาคดียึดทรัพย์ฉบับเต็ม หลังอ่านคำพิพากษาเสร็จ

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

 

ASTV ผู้จัดการ News

กรุงเทพธุรกิจ - ข่าวหน้าแรก

เกาะติดสื่อ ตามข่าวร้อน Copyright © 2009 WoodMag is Designed by Ipietoon for Free Blogger Template