"วันพิพากษา"ศาลออกนั่งบัลลังก์13.30น.วันนี้

Suthichaiyoon.com : "วันพิพากษา" หรือ Judgement Day 26 ก.พ.ศาลฎีกาพร้อมออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน ของ "ทักษิณ-ครอบครัว" บ่ายเวลา 13.30 น.วันนี้ โดยองค์ผู้พิพากษา 9 คนได้เดินทางด้วยรถแลนด์ โรเวอร์ กันกระสุนสีดำมาพรอ้มกันที่ศาลในเช้าวันนี้แล้ว

ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ทนายเผย "พจมาน-โอ๊ค-เอม" สบายๆ ไม่วิตก ขอฟังคำตัดสินที่เซฟเฮ้าส์ใน กทม. ส่วน "ทักษิณ" ลุ้นผลอยู่ที่ยูเออี พร้อมวีดิโอลิงค์เข้าเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์สดผ่าน VOICETV ตลอดวัน

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและครอบครัว จำนวน 76,621,603,061.05 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน วันนี้ (26 ก.พ.) เวลา 13.30 น.

สำหรับคดีนี้ศาลฎีกาฯ มีคำสั่งรับฟ้องเมื่อวันที่ 16 ต.ค.2551 หลังอัยการสูงสุด ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 25 ส.ค.2551 ขอให้ศาลมีคำสั่งให้เงินที่มีการซื้อขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 1,419,490,150 หุ้น ให้กับกลุ่มเทมาเส็ก ประเทศสิงคโปร์ จำนวน 69,722,880,932.05 บาท และเงินปันผลจากหุ้นดังกล่าว จำนวน 6,898,722,129 บาท รวมจำนวน 76,621,603,061.05 บาท พร้อมดอกผลของ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว รวมทั้งบุคคลใกล้ชิดที่มีชื่อเป็นเจ้าของทรัพย์สิน รวม 22 ราย ให้ตกเป็นของแผ่นดิน โดยกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ และมีทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้นผิดปกติ ในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าววานนี้ (25 ก.พ.) ว่า จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ของศาลยุติธรรม และศาลฎีกาฯ ทุกคนพร้อมเต็มที่ในการรับมือต่อทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีเหตุการณ์วุ่นวายใดๆ เกิดขึ้น สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้นได้กำชับให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) เข้มงวดตรวจสอบบุคคลเข้าออก โดยจะเปิดให้คู่ความ ผู้มาสังเกตการณ์และสื่อมวลชน เข้ามาภายในบริเวณศาลฎีกา ประตูด้านถนนหน้าหับเผย บริเวณศาลหลักเมืองเพียงฝั่งเดียว เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบและดูแลความปลอดภัย

นอกจากนี้ ยังมีการกั้นรั้วเหล็กโดยรอบอาคารศาลฎีกา และติดตั้งกล้องวงจรปิดโดยรอบบริเวณ ส่วนจะต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้ามาช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยมาก น้อยเพียงใด เป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครองจะประเมินสถานการณ์

ทนายเผย "พจมาน" ยังสบายๆ

นายสมพร พงษ์สุวรรณ ทนายความคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เวลานี้คุณหญิงพจมาน ยังคงพักอยู่ในประเทศไทย แต่ยังไม่ได้คุยกันชัดเจนว่า จะเดินทางไปศาลหรือไม่ แต่เท่าที่ได้พูดคุยกับคุณหญิงพจมาน ท่านก็ยังสบายๆ

ส่วนมาตรทางกฎหมายการบังคับคดีและแนวทางการยื่น อุทธรณ์เป็นอย่างไรหากศาลมีพิพากษาให้ยึดทรัพย์ทั้งหมด หรือบางส่วน นายสมพร กล่าวว่า ขณะนี้ยังตอบอะไรไม่ได้ เพราะต้องรอฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาว่าจะเป็นอย่างไร หากจะสั่งยึดทรัพย์ จะยึดของใครบ้าง จำนวนเท่าใด ซึ่งในส่วนของคุณหญิงพจมาน มีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีทรัพย์สินประมาณ 2 พันล้าน

นายกิตติพร อรุณรัตน์ ทนายความนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าทั้งสองจะเดินทางไปศาลเพื่อฟังคำพิพากษาเองหรือไม่ แต่ทั้งสองไม่ได้หวั่นวิตกอะไร

"พจมาน-ลูก" ขอฟังคำตัดสินที่เซฟเฮ้าส์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามคนใกล้ชิดของคุณหญิงพจมาน และลูกๆ ทราบว่า คุณหญิงพจมาน นายนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา จะไม่เดินทางไปฟังคำพิพากษาในวันนี้ โดยคุณหญิงพจมาน จะรอฟังคำตัดสินร่วมกับลูกๆ ที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และยืนยันว่าไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คอยติดตามข่าวสารและรอฟังคำพิพากษาอยู่ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งในที่ 26 ก.พ.เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว เวลา 20.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ก็คงจะออกพูดคุยออกอากาศผ่านรายทอล์ค อะราวด์ เดอะ เวิลด์ ส่วนการออกแถลงการณ์ น่าจะมีในวันรุ่งขึ้น

"ทักษิณ" เตรียมวีดิโอลิงค์เข้าพรรคทั้งวัน

นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้นัดให้คณะกรรมการบริหารพรรค ส.ส.พรรคเพื่อไทย รวมทั้ง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรี พร้อมทั้งอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน มารวมตัวที่พรรคเพื่อไทย เพื่อติดตามความเคลื่อนไหว และเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกว่าการอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น

ทั้งนี้ ระหว่างเกาะติดสถานการณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งอยู่ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) จะวีดิโอลิงค์เข้ามาพูดคุยกับแกนนำและ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ทีมงานของตระกูลชินวัตร ได้ส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือผู้สื่อข่าวแจ้งว่า ในช่วงเย็นวันเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ จะเกาะติดคำตัดสินคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ และจะพูดสดผ่านเว็บไซต์ WWW.VOICETV.CO.TH จากเมืองดูไบ ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป โดยจะมีนางสาวตวงพร อัศววิไล อดีตผู้ประกาศข่าวไอทีวีทำหน้าที่พิธีกร

คตส.ไม่กังวลศาลพิพากษายึดทรัพย์

นายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวว่า ผลการตัดสินคดียึดทรัพย์ของศาลฎีกาฯ จะออกมาอย่างไรนั้น คงต้องขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล แต่ส่วนตัวไม่กังวลอะไร เพราะขณะนี้ถือว่าภารกิจการทำหน้าที่ของ คตส. ได้สิ้นสุดแล้ว และที่ผ่านมาก็ทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งนี้อดีตคณะกรรมการ คตส. แต่ละคนไม่ได้นัดกันเพื่อฟังการตัดสินของศาลฎีกาเป็นกรณีพิเศษ ส่วนข้อกังวลที่อาจเกิดปัญหารุนแรงภายหลังการพิจารณาคดีนั้น ตนเห็นว่าคงไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงแต่อย่างใด เพราะรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงดูแลเรื่องนี้เป็นอย่างดี

นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตเลขานุการ คตส. กล่าวว่า ในส่วนของตนหากติดธุระไม่อยู่บ้าน ก็จะต้องฟังผลการตัดสินทางวิทยุ ส่วนผลจะออกมาในรูปแบบใดก็ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล และ คตส.ได้ทำหน้าที่สิ้นสุดและเต็มความสามารถแล้ว ทั้งนี้ไม่รู้สึกกังวลอะไร เพราะถ้ากังวลคงไม่มาทำงานนี้ตั้งแต่แรก รู้สึกเฉยๆ สบายๆ มากกว่า

นายสัก กอแสงเรือง อดีตโฆษก คตส. กล่าวถึงกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.ระบุ คตส.จะได้รับเงิน 25 เปอร์เซ็นต์สำหรับผู้ชี้เบาะแสคดียึดทรัพย์ว่า เรื่องนี้ คตส.ชี้แจงไปแล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เรื่องนี้ใครจะพูดอะไรก็พูดได้ เพราะคนที่พูดไม่มีอะไรจะพูด

"สุเทพ"สั่งสันติบาลเกาะติดข่าวให้ชัด

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า เมื่อเวลา 13.00 น.วานนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้เรียก พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิชัย ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) และนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ เข้ามาหารือ จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายสุเทพ ถึงการหารือดังกล่าวว่ามีการข่าวอะไร ที่ต้องเตรียมการรองรับเป็นพิเศษหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ตนเพียงแต่ให้ทางตำรวจสันติบาลได้ดูแลข่าวคราวทั้งหลายให้ชัดเจนขึ้น เป็นการสั่งงานตามปกติ ไม่มีอะไรพิเศษ

"ตอนนี้ก็ยังไม่มีรายงานการข่าวอะไร ส่วนการชุมนุมของกลุ่มแดงสยามที่ท้องสนามหลวงก็ว่ากันไป ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ถ้ามีแล้วผมจะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบ ผมยังไม่ได้นัดหารือคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) แต่อย่างใด เรื่องการเตรียมความพร้อมในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยผมได้พูดไปหมดแล้ว"

พล.ต.ท .ตรีทศ กล่าวว่า เชื่อว่าความวุ่นวายก็คงไม่เกิดในวันนั้น ส่วนกลุ่มผู้ที่มาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ทางตำรวจสันติบาลก็พอจะทราบสถานการณ์และมีการประเมินไว้บ้างแล้ว

ตร.ประสานกองทัพขอกำลังสนับสนุน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมสภากลาโหม เกี่ยวกับการดูแลสถานการณ์บ้านเมืองในช่วงการพิพากษาคดียึดทรัพย์ ว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะดูแลความสงบเรียบร้อย และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ประสานกองทัพบกขอสนับสนุนกำลังแล้ว ในส่วนของกองทัพไม่ต้องดำเนินการอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมแผนรองรับไว้แล้ว และอยากขอร้องประชาชนให้อยู่ในความสงบ รับฟังคำพิพากษาของศาล ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย

รัฐจับตา 4-5 ชม.หลังตัดสินคดี

นาย ปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระยะเวลา 4-5 ชั่วโมงหลังจากที่ศาลฎีกาฯ อ่านพิพากษาเสร็จสิ้นแล้ว จะถือเป็นช่วงเวลาที่ต้องจับตาเป็นพิเศษว่าจะมีเหตุการณ์ความวุ่นวายเกิด ขึ้นหรือไม่ เพราะช่วงเวลาดังกล่าวถือว่าเป็นช่วงที่ประชาชนมีอารมณ์ร่วมมากที่สุดแล้ว

"หลังมีคำตัดสินแล้ว 4-5 ชั่วโมง กลุ่มเสื้อแดงอาจจะเปิดเวทีพูดคุย ซึ่งเป็นช่วงที่เราต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะอารมณ์จะขึ้นสูงสุด ต้องมีการเฝ้าระวังให้ดี" โฆษกรัฐบาล กล่าว