กรุงเทพธุรกิจ : มติของกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ "ไม่ร่วมสังฆกรรม" ลงชื่อญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยเสียง 82:48 เสียง
เรื่องเขตเลือกตั้ง คอการเมืองบอกว่า เรื่องนี้ไม่เซอร์ไพรส์ เพราะรู้มาก่อนอยู่แล้วว่าประชาธิปัตย์ หัวขวิดตีนถีบยังไงก็ไม่เอาด้วย มีเพียงแม่บ้านอย่าง สุเทพ เทือกสุวรรณ เท่านั้นที่ออกอาการ "เหยียบเรือสองแคม" เพราะต้องรักษาหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ที่ "ลิงโลด" ไปชักชวนมวลสมาชิกพรรคร่วมเข้ามาจัดตั้งรัฐบาล
ณ เวลานั้น ใครเสนออะไร สุเทพ อ้าแขนรับแบบไม่ต้องคิด เพียงแค่ขอให้พรรคร่วมไหลมากองรวมกับประชาธิปัตย์เพื่อเป็นรัฐบาลเท่านั้น
เกมดันแก้ไขเขตเลือกตั้ง เขตเดียวเบอร์เดียว มีเพียง "คุณอากับหลาน" เท่านั้น ที่เดินเกมเขย่าพรรคประชาธิปัตย์มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยความเป็น "เจ้าหลักการ" อย่างประชาธิปัตย์ มิอาจรับสภาพแรงกดดันจากพรรคร่วมได้ จะเห็นว่าตลอดเวลาที่ผ่านมามีการดึงเกมมาตลอด อ้างโน่นอ้างนี่ และนี่คือประชาธิปัตย์
จริงๆ เกมกดดันประชาธิปัตย์ ณ เวลานี้ ต้องเช็คความพร้อมพรรคร่วมด้วยกันเองก่อนว่า "สมานฉันท์" แค่ไหน? ที่จะล่ารายชื่อเสนอรัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นเขตเลือกตั้ง หลังประชาธิปัตย์ไม่เอาด้วย
แกนนำพรรคร่วม บ้างก็วิเคราะห์ลึกไปว่า หากดื้อดึงที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นเขตเลือกตั้ง ถ้ากระแสสังคมไม่ตอบรับ เกิดบ้านเมืองมีปัญหาวุ่นวาย เมื่อถึงตอนนั้นพรรคร่วมจะกลายเป็นจำเลยสังคมหรือไม่?
ฉะนั้น สถานภาพของพรรคร่วมต่อประชาธิปัตย์นับจากนี้ไปคงอยู่ในสภาพ เขย่าเช้าเขย่าเย็น ขู่แล้วขู่อีก เป็นเกมเขย่านายกฯ อภิสิทธิ์ ต่อเนื่องแบบต่อวันต่อ ดีไม่ดี อาจถึงขั้นป้อนข้อมูลให้ฝ่ายค้านด้วย
นับจากนี้ คอการเมืองทั้งหลายต้องเกาะติด เกมแย่งชิงอำนาจทางการเมืองอย่างใกล้ชิด จะได้รู้ว่านักการเมืองไทยมีพัฒนาการเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวอย่างไร ทำเพื่อประเทศชาติสักกี่เปอร์เซ็นต์
การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เขตเลือกตั้งเขตเดียวเบอร์เดียว จะเป็นจริงได้แค่ไหน? แต่พรรคร่วมก็ยังเป็นพรรคร่วมวันยังค่ำ ยังต้องสร้างขุมกำลัง มองหาอนาคตรับการเลือกตั้งอยู่ดี ไม่คิดว่าจะมีพรรคร่วมพรรคไหน "ฆ่าตัวตาย" ประกาศถอนตัวออกจากรัฐบาลล้านเปอร์เซ็นต์ วันนี้พรรคร่วมยังเอ็นจอยกับการใช้ "เงินหลวง" การใช้เงินตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ยังเอ็นจอยกับการบงการ "นอมินี" แต่ละกระทรวง ให้ปลุกเสกโครงการขึ้นมาเพียงเพื่อใช้เงิน
ไม่แปลกใจที่ "คุณอากับหลาน" ต้องเดินเกมกดดันแก้เขตเลือกตั้ง เพราะเขตใหญ่นั้นพรรคเล็กมีโอกาสเกิดทางการเมืองได้ยาก
สำคัญอยู่ที่ว่าเขตเล็ก เขตใหญ่ ก็ซื้อเสียงกันทั้งนั้น ยิ่งเขตใหญ่ยิ่งต้องใช้เงินเยอะ พรรคเล็กๆ อย่างพรรคร่วมคงต้องออกแรงเยอะหน่อย
หากมีเลือกตั้งเกิดขึ้น ณ ตอนนี้ ประชาธิปัตย์คงไม่มองว่าพรรคเล็กคือคู่ต่อสู้ แต่คู่ท้าชิงคือพรรคเพื่อไทยมากกว่า ขณะนี้ประชาธิปัตย์ยังมีความได้เปรียบ มีหัวหน้าพรรคที่สามารถเร่ขายประชาชนพ่วงนโยบายที่มีอยู่ได้ ขณะที่พรรคเพื่อไทย ยังอยู่ในสภาพ "พรรคไร้หัว" เพียงแต่ประชาธิปัตย์มีกำลังพอจะทุ่มทุนทรัพย์ชิงพื้นที่ได้แค่ไหน ตรงนี้ต่างหากที่เขตใหญ่อาจไม่เอื้ออำนวยให้แก่ประชาธิปัตย์ได้ร้อย เปอร์เซ็นต์
ยิ่งไปกว่านั้นเขตใหญ่ โอกาสที่คนรุ่นใหม่จะแจ้งเกิดขึ้นทางการเมืองก็ยากขึ้นทุกวัน ที่เราๆ ท่านๆ เห็นกันในการเมืองไทยวันนี้ มีแต่ตระกูลเก่าๆ ที่สืบทอดทายาทกันมา ไม่พ่อก็ลูก ไม่ลูกก็หลาน ไม่หลานก็ภรรยา แล้วอีกกี่สิบปีถึงจะมีทางให้คนรุ่นใหม่เข้ามาอยู่บนถนนสายนี้สักที ตราบใดที่ยังเป็นเขตใหญ่ บอกได้เลยว่าคนรุ่นใหม่หมดสิทธิเกิด
วันนี้ การเมืองจะร้อนแรงขึ้นเท่าไร หรือลากยาวไปจนถึงอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เชื่อว่าพรรคร่วมที่มีแกนนำเก๋าๆ จะออกลีลาสร้างเกมบีบนายกฯ อภิสิทธิ์ ไปเรื่อยๆ ไม่ถึงกับเอากันให้ตาย คงแค่ฟกช้ำดำเขียว เป็นการสั่งสอนมากกว่า
ก็เพราะตอนนี้แกนนำทุกคนยังเอ็นจอยอยู่ "บนโต๊ะจีน" จะออกหมัดน็อค หมัดแย็บสักแค่ไหน แต่ทุกคนก็รู้ว่าเมนูบนโต๊ะจีน อาหารยังออกมาไม่หมด จึงไม่มีใครอยากเห็นการยุบสภา ขณะที่ยังไม่พร้อมกันทั้งนั้น!!!
ข่าว แก้ไขรัฐธรรมนูญ ข่าวการเมือง จาก กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวเด่น ข่าวร้อนวันนี้ : กรุงเทพธุรกิจ
28 มกราคม 2553
เปิดเกมเขย่าขวัญ!! รับอภิปรายฯ
Author: Admin.
| Posted at: 13:11 |
Filed Under:
กรุงเทพธุรกิจ,
ข่าวการเมือง,
รัฐธรรมนูญ
|

สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 comments:
แสดงความคิดเห็น