
ไทยโพสต์ - บทบรรณาธิการ : ตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีในการบริหารงานของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเรียกได้ว่านุ่มนิ่ม นุ่มนวลมาโดยตลอด แทบไม่เห็นท่าทีที่แข็งกร้าวในเรื่องใดๆ เลย ยกเว้นกรณีทัศนะต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องโทษจำคุก 2 ปีในคดีทุจริตซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ที่นายอภิสิทธิ์ยังคงมีจุดยืนไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ยังเป็นผู้นำฝ่ายค้าน จนมาเป็นผู้บริหารสูงสุดของประเทศ ว่าอดีตนายกฯ ต้องกลับมารับโทษในประเทศไทยก่อน
แต่ท่าทีของนายอภิสิทธิ์ในปัจจุบัน กลับมีความชัดเจนอย่างยิ่ง ใน "โครงการจำหน่ายสลากกินแบ่งอิเล็กทรอนิกส์" หรือ "หวยออนไลน์" ที่นายกฯ ได้ออกมาตอกย้ำแบบวันต่อวันว่า จะไม่เอาเด็ดขาด โดยเฉพาะท่าทีขึงขังล่าสุด ที่ระบุถึงขั้นยืนยันในหลักการที่ยึดถือมาตลอดว่าจะไม่แก้ไขปัญหาในลักษณะ การกระทำสิ่งผิดกฎหมายให้เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย
นายอภิสิทธิ์ยังได้ยกตรรกะเรื่อง "หวย" เทียบกับ "ยาเสพติด" และการค้าประเวณี ในลักษณะเดียวกันด้วยว่า หากให้ยาเสพติดหมดไป เหมือนที่ต้องการให้หวยใต้ดินเลิกไป รัฐบาลก็ต้องเปลี่ยนมาขายยาเสพติด เพื่อทำให้ยาเสพติดหมดไปด้วยหรือไม่ แม้เป็นตรรกะแบบกำปั้นทุบดิน ซื่อๆ ตรงๆ แต่ก็เรียกว่าได้ว่าส่งตรงไปยังผู้ที่พยายามโยงใย ว่าการยกเลิกหวยออนไลน์นั้น เพราะพรรคประชาธิปัตย์จับมือกับเจ้ามือหวยใต้ดินได้แบบชะงักนัก
แต่ท่าทีของนายอภิสิทธิ์นั้น ก็ยังเป็นที่หวาดระแวงในสังคมอยู่ เพราะหากพินิจจากถ้อยคำของเจ้าตัวที่พูดออกมาเองว่า มีความชัดเจนไม่อยากเห็นปัญหาอบายมุขขยายตัว และในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนก็ได้ทักท้วงการขยายเวลาการชนไก่ โดยใช้เหตุผลเดียวกันนี้ แต่สุดท้าย ครม.ก็มีมติขยายเวลาออกไป
เพียงเพราะผู้ที่เสนอเรื่องดังกล่าวคือ "กระทรวงมหาดไทย" ที่อยู่ในความดูแลของพรรคภูมิใจไทย ที่มีแฝดสยามเทียมอย่าง นายเนวิน ชิดชอบ ผู้ยิ่งยงแห่งบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นยักษ์ค้ำบรรลังก์รัฐบาลรับหน้าเสื่อดูแล!
แสดงความชัดแจ้งว่า หากอบายมุขที่เพิ่มเติมหรือขยายตัวมีการส่งสัญญาณมาจากพรรคภูมิใจไทย รัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ก็จะทำเป็นหูหนวก ตาบอดใบ้ขึ้นมาชั่วขณะทันที จึงไม่น่าแปลกใจว่า กฎเหล็ก 9 ข้อของนายอภิสิทธิ์ที่ได้ประกาศตั้งแต่ช่วงรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีจึงถูกท้าท้ายเสมอมา
ล่าสุด ก็ชัดเจนในกรณีกระทรวงสาธารณสุข ที่เจ้ากระทรวงอย่างนายวิทยา แก้วภราดัย ได้ลาออกแสดงความรับผิดชอบส่วนหนึ่งแล้ว แต่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง อย่าง "นายมานิต นพอมรบดี" ที่ถูกผลสอบสวนกล่าวหาที่ฉกาจฉกรรจ์ยิ่งกว่า ยังคงนั่งเก้าอี้อยู่แบบไม่ระคายผิว
มิหน่ำซ้ำบรรดาผู้จัดการรัฐบาลหน้าดำมะเมื่อมยังยกหาง และเชียร์ให้อยู่ในเก้าอี้อีก เช่นเดียวกับบรรดาผู้นำพรรคหลังฉากในภูมิใจไทย ที่เรียกว่ายกมือสนับสนุนแบบสุดลิ่มสุดประตู ก็เพราะสาเหตุเดียวกับการชนไก่ นั่นคือเป็นรัฐมนตรีในสังกัดพรรคของนายเนวิน
นี่ยังไม่นับรวมท่าทีของนายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย ซึ่งจะเป็นประธานคณะกรรมการดูแลข้อกฎหมายและการเจรจากับเอกชนที่จะไม่ดำเนิน การเรื่องหวยออนไลน์ ที่ได้ออกมาตอกย้ำแล้วย้ำเล่าในหลายเพลาว่า ไม่ใช่การยกเลิกโครงการ เป็นเพียงการดูแลข้อสัญญาเท่านั้น
ก็ขนาดคนในพรรคประชาธิปัตย์ที่จะเป็นหัวหน้าคณะทำงานเพื่อยื่นเสนอทางเลือก ให้กับนายกรัฐมนตรีในอีก 1 เดือนข้างหน้า ยังตอกย้ำแบบสวนทางกับนายอภิสิทธิ์ แล้วสังคมจะมองแนวทางเรื่องดังกล่าวว่าเป็นอย่างไรกันแน่
ถือเป็นโชคดีประการหนึ่งที่โครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้การดูแลของพรรคชาติไทย พัฒนา ที่เรียกว่าเป็นพรรคที่แทบไม่มีสิทธิ์มีเสียงแต่อย่างใด ยิ่งคนรับผิดชอบดูแลชื่อ "ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์" ซึ่งเป็นลูกหม้อเก่าของพรรคประชาธิปัตย์ การจะดึงจะรั้งโครงการจึงไม่ต้องกระอักกระอ่วนใจและกายมากนัก
การยกเลิกโครงการดังกล่าวปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า ได้ส่งผลกระทบที่รุนแรงกับภาคเอกชน โดยเฉพาะบริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเท็ค เทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นผู้รับจ้างวางระบบการจำหน่ายหวยออนไลน์ ยังไม่นับรวมผู้ประกอบการโดยสุจริตที่ได้มีการเช่าพื้นที่ หรือตู้จำหน่ายสลากไว้แล้วเป็นเวลากว่า 5 ปี ซึ่งผลกระทบเหล่านี้รัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
เพราะเขาเล่านั้นถือเป็นผู้ประกอบการที่ทำถูกต้องตามขั้นตอนในขณะนั้น เพียงแต่ปัจจุบันนโยบายนายกรัฐมนตรีได้เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งคำถามที่ต้องตามมาคือ จะนำเงินส่วนไหนจากที่ใดมาเยียวยา จะใช้เงินงบประมาณแผ่นดินที่เป็นเงินภาษีของคนทั้งประเทศที่ควรนำมาพัฒนา ประเทศมาใช้หรือ เพราะเชื่อได้ว่าค่าเสียหายดังกล่าวประเมินอย่างคร่าวๆ ก็ต้องไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาทแน่นอน
การทอดระยะเวลาออกไป 1 เดือนของนายอภิสิทธิ์ครั้งนี้ ช่างละม้ายคล้ายโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวีจี 4,000 คันเสียนี่กระไร หลังจากยื้อยุดฉุดกระชากด้วยเสียงท้วงติงทั้งจากนายกรัฐมนตรี และสังคมจำนวนมาก แต่เมื่อนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจากพรรคภูมิใจไทย (อีกแล้ว) ยืนยันว่า "เช่าดีกว่าซื้อ" จนต้องหาทางออกโดยโยนเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ (สศช.) ไปศึกษาในเวลา 1 เดือน
และเมื่อครบ 1 เดือนก็ได้ต่อระยะเวลาอีกระยะหนึ่ง สุดท้ายก็เสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เสร็จโรงเรียนเนวินตามระเบียบ เพียงมีข้อสังเกตจากสภาพัฒน์ฯ มาประดับเล็กๆ น้อยๆ เพื่อไม่ให้เกินงามเท่านั้น
หวยออนไลน์ก็เดินมาในรูปแบบเดียวกัน เพียงแต่ครั้งนี้ไม่มีเสียงโต้จากรัฐมนตรีเท่าใดนัก เพราะนายประดิษฐ์ก็พยักหน้า เนื่องจากเป็นนโยบายของผู้นำรัฐบาล ในขณะที่ รมต.จากภูมิใจไทยก็เห็นเป็นเรื่องนอกตัว จะมีเสียงคัดค้านบ้างก็มาจากเอกชน ผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงนักวิชาการที่เห็นดีเห็นงามว่าเป็นหนทางขจัดปัญหาหวยใต้ดิน และพรรคเพื่อไทย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นรากเหง้าของโครงการดังกล่าว
งานนี้จึงน่าจับตาว่านายอภิสิทธิ์ที่โดดมาเล่นบทบาทพะบู๊กับอบายมุขอย่าง ทุ่มหมดตัว โดยยืนยันถึงหลักการที่ยึดมั่นถือมั่นมาโดยตลอด จะไม่ซ้ำรอยกับเหตุการณ์รถเมล์เอ็นจีวี เพราะเจ้าตัวเองก็รู้อยู่เต็มอกว่า งานนี้กระทบต่อคะแนนเสียงของพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน ไม่ว่าจะเดินหน้าทำโครงการต่อ หรือยกเลิกโครงการ
แต่อย่างน้อยครั้งนี้ก็จะเป็นประกาศถึงความเป็นผู้นำที่มีศักยภาพกล้าตัดสิน ใจเสียที ไม่ถูกครหาเป็น "หล่อหลักลอย" แต่หากบทสรุปเดินตามรอยรถเมล์แล้วหล่ะก็ รับประกันได้เลยว่างานนี้ฉายาใหม่คงไม่ไกลกับคำว่า "หล่อไร้หลัก" แน่นอน.
ข่าว ยกเลิกหวยออนไลน์ จาก ไทยโพสต์
0 comments:
แสดงความคิดเห็น