ปชป.ยินดี "ศิวรักษ์" พ้นคุก

ไทยรัฐ : พรรคประชาธิปัตย์ ยินดี “ศิวรักษ์” พ้นคุกเขมร พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือ ยัน กษิต สอบผ่าน รมว.ต่างประเทศ​แม้ไม่ได้แสดงบทบาทเข้ามาช่วยเหลือ ...

วันนี้ (12 ธ.ค.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยที่ถูกศาลของประเทศกัมพูชา พิพากษาคดีจำคุก 7 ปี และปรับ 1 แสนบาท ได้รับการอภัยโทษและจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ยินดีที่เรื่องดังกล่าวจะจบลงด้วยดี โดยหวังว่านายศิวรักษ์ จะเดินทางกลับไทยในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ จึงขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ร่วมกันให้ความช่วยเหลือแก่คนไทยที่ถูกจับกุม พรรคเชื่อว่า เมื่อเวลาผ่านไปและข้อเท็จจริงที่ปรากฏขึ้นประชาชนจะได้ไตร่ตรอง ถึงสาเหตุต้นตอที่เกิดขึ้นว่าจากอะไร โดยเฉพาะการที่พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจกัมพูชา และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ และประธานพรรคเพื่อไทย ได้ใช้สถานการณ์นี้ในการแก้ไขปัญหาที่ทั้ง 2 คนเป็นต้นเหตุ ซึ่งพรรคกังวลว่า ขณะนี้มีกระบวนการเบี่ยงเบนประเด็นการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการสถานทูตไทย ที่ทำหน้าที่ตามปกติว่า เป็นสาเหตุของปัญหา

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่พรรคเพื่อไทย ควรต้องอธิบายต่อสังคมคือ บทบาทและความเกี่ยวข้องในเหตุการณ์นี้ใน 2 ประเด็น คือ 1.การที่แกนนำของเพื่อไทย อ้างการครอบครองคลิปเสียงว่า มีการสั่งการ และการดักฟัง เพื่อบันทึกเสียงดังกล่าว ซึ่งต่อมาแกนนำหลายคนออกมายืนยันว่า มีการจารกรรมข้อมูลเกิดขึ้น ข้อมูลเหล่านี้ได้ถูกใช้เป็นเหตุผลหลักในการพิจารณา และลงโทษ นายศิวรักษ์ ซึ่งเป็นสาเหตุในการถูกจับกุมตัวต่อมาหรือไม่ และ 2.การพยายามเคลื่อนไหวให้สอดรับกับแถลงการณ์ของกัมพูชา ถึงผลการพระราชทานอภัยโทษอย่างผิดสังเกต ถึงขนาดที่ไปยื่นหนังสือที่สถานทูตกัมพูชา ภายหลังจากที่มีการพระราชทานอภัยโทษเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งมีความพยายามอ้างว่าการดำเนินการดังกล่าวส่งผลย้อนหลังต่อการได้รับการ พระราชทานอภัยโทษ จึงทำให้เกิดความสงสัยของคนไทยเป็นอย่างมาก

นพ.บุ รณัชย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ทางพรรคเพื่อไทยกล่าวอ้างว่าทางกระทรวงศึกษาธิการได้ตั้งคณะกรรมการสอบทาง วินัยนางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดานายศิวรักษ์นั้น กรณีนี้พรรคประชาธิปัตย์ ขอยืนยันว่า ไม่เป็นเรื่องจริง เพราะไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยแต่อย่างใด ซึ่งพรรคไม่อยากให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดฉกฉวยโอกาสหาประโยชน์จากความรู้สึกยินดี ของคนไทยที่ นายศิวรักษ์ จะได้อิสรภาพ สำหรับ เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น พรรคเห็นว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ โดยมีเงื่อนไขสำคัญ คือ หากการเคลื่อนไหวในประเทศเพื่อนบ้านยุติลง การแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา จะสามารถเดินหน้าไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้

ผู้ สื่อข่าวถามว่า หลังการพระราชทานอภัยโทษความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา จะเป็นอย่างไร นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า หลังจากปัญหานี้คลี่คลายคาดว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศจะดีขึ้น ส่วนกรณีที่ท่าทีของรัฐบาลกัมพูชายังแข็งกร้าวนั้น เราต้องพัฒนาไปทีละขั้นตอน เรื่องนี้จะใจร้อนไม่ได้ เมื่อถามอีกว่า ภาพลักษณ์ของกระทรวงการต่างประเทศ ที่เสียหายไปจากเหตุการณ์นี้ จะฟื้นฟูอย่างไร นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ช่วยเหลือนายศิวรักษ์อยู่ตลอดเป็นอย่างดี ทั้งการประสานงาน การหาทนายความให้ และการดูแลความเป็นอยู่ของนายศิวรักษ์ แต่สาเหตุที่ฝ่ายอื่นสามารถช่วยเหลือนายศิวรักษ์ได้ ก็เป็นเพราะห่วงใยคนไทยด้วยกัน ยืนยันว่าภาพลักษณ์กระทรวงการต่างประเทศไม่เสียหายแต่อย่างใด ต่อข้อถามที่ว่า หากพรรคเพื่อไทยใช้ครอบครัวนายศิวรักษ์ มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองในกรณีนี้ นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ตนไม่มองในแง่นั้น ส่วนที่มารดา นายศิวรักษ์ไม่พอใจรัฐบาล เข้าใจได้ว่าหัวอกคนเป็นแม่ เมื่อเห็นทางใดที่สามารถช่วยเหลือบุตรชายตนเองได้ จะต้องคว้าไว้

ผู้ สื่อข่าวถามว่า เหตุใด นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ จึงไม่แสดงบทบาทการช่วยเหลือนายศิวรักษ์ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ พยายามช่วยเหลือและให้ข้อมูลกับประชาชนทุกวิถีทาง เห็นได้จากการทำหน้าที่ของเลขานุการ รมว.ต่างประเทศ และอธิบดีกรมสารนิเทศของกระทรวงการต่างประเทศ สาเหตุที่นายกษิตไม่ได้ลงมาเกี่ยวข้องมากนัก เนื่องจากใน 2 เดือนที่ผ่านมามีการประชุมระดับนานาชาติหลายครั้ง จึงต้องไปเตรียมการเพื่อให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยดูดีในระดับนานาชาติ ซึ่งเท่าที่ทราบทุกฝ่าย ยอมรับในตัวนายกษิต

เมื่อถามอีกว่า เหตุที่นายกษิตไม่จริงจังในการช่วยเหลือมาจากการที่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องปาหี่ใช่หรือไม่ นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ไม่ใช่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะต้องมองว่ารัฐบาลไม่ใช่ผู้สร้างปัญหา เมื่อถามย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์ให้คะแนนการทำหน้าที่นายกษิตในเหตุการณ์นี้ เท่าใด นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ต้องให้สังคมและประชาชนเป็นผู้ประเมิน ส่วนที่มีการเสนอให้ปรับ ครม. ในส่วนของนายกษิตนั้น เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับตัวนายกฯ ซึ่งจะต้องดูภาพรวมการทำงานตลอดเวลาที่ผ่านมาด้วยว่าเป็นอย่างไร แต่เท่าที่พรรคประชาธิปัตย์ประเมินเห็นว่าทีมงานทำงานในการแก้ไขปัญหาประเทศ ได้อย่างสัมฤทธิ์ผล และถือนายกษิตว่าสอบผ่าน

ที่มา คดีศิวรักษ์ ข่าวกัมพูชา ข่าวการเมือง ข่าวต่างประเทศ จาก ไทยรัฐออนไลน์