สัญญาณอันตราย

คมชัดลึก : สถานการณ์การเมืองยามนี้อยู่ในสภาวะเคลื่อนเข้าสู่จุดเดือดอีกครั้ง หลังจาก "นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี และลิ่วล้อ พรรคเพื่อไทย กับกลุ่มคนเสื้อแดง

เร่งเกมปลุกระดมมวลชนเพื่อโหมโรงก่อนที่จะจุดไฟเผาบ้านตัวเองอีกครั้งหลังเทศกาลฉลองปีใหม่ เป็นต้นไป ด้วยการปลุกปั่นกลุ่มคนเสื้อแดง กดดันการทำงานขององค์กรอิสระ และกระบวนการยุติธรรม

โดยเฉพาะกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อยู่ระหว่างการพิจารณายุบพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ กับปมร้อนเงินบริจาค 258 ล้านบาท

รวมไปถึงที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเตรียมวินิจฉัยชี้ขาดคดีอายัดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของ ทักษิณ ในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้

พร้อมทั้งขู่ยกพลไปกดดันถึงบ้านพักตุลาการ กกต. สถานที่สำคัญ รวมถึงสื่อหลายแขนงที่ไม่เป็นกลางในมุมมองของ "นักโทษชายทักษิณ"

จึงทำให้สถานการณ์ในช่วงปลายปีมีแนวโน้มว่า ความรุนแรงจะกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งในบ้านเมือง

โดยเฉพาะการออกมาเปิดเอกสารลับของพรรคเพื่อไทย ที่หยิบยกเอาความอ่อนไหวจากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา มาเป็นเงื่อนไข

ทั้งหมดนี้เป็นแผนเลี้ยงไข้ของ "นักโทษชายทักษิณ" หลังจากที่กลับมาตั้งฐานบัญชาการรบที่กัมพูชา

เพื่อเกณฑ์มวลชนให้ได้มากที่สุด ก่อนที่จะประกาศแตกหักในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์-มีนาคม โดยปมปัญหานี้จะสร้างความสั่นสะเทือนให้แก่รัฐบาล

บวกกับการออกมาขู่ผสมโรงของ "เสธ.แดง" พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่ออกมาระบุว่า "นักโทษชายทักษิณ" ส่งสัญญาณให้เสื้อแดงชุมนุมใหญ่หลังวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ 2553

โดยขีดเส้นให้เวลา "อภิสิทธิ์" สร้างความสมานฉันท์ภายในเวลา 90 วัน หากไม่สำเร็จต้องออกมาสู้กัน

สอดรับกับท่าทีของ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ประกาศยอมตายเป็นคนแรก ออกมาปลุกระดมให้ประชาชนออกมารวมตัวที่ถนนราชดำเนินไล่โจรปล้นประชาธิปไตย

สถานการณ์การเมืองในช่วงสัปดาห์นี้ จึงน่าจับตายิ่ง โดยเฉพาะอยู่ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่อาจจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นได้ตลอด

สอดคล้องกับรายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคง ที่ประเมินสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมือการสร้างสถานการณ์ในช่วงรอยต่อวันส่งท้ายปีเก่า

ไม่ว่าจะเกิดขึ้นด้วยฝีมือของคนกลุ่มใด รัฐบาลต้องได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เหล่าบรรดาขุนพลของ "นักโทษชายทักษิณ" เตรียมเคลื่อนไหวแบบเต็มสูบ ไม่ว่าจะเป็น "ยงยุทธ ติยะไพรัช" ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดการยุบพรรค และ "จักรภพ เพ็ญแข" แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่หนีคดีหมิ่นเบื้องสูง

ฉะนั้นจึงน่าสนใจยิ่งกับการดิ้นเฮือกสุดท้ายของ "นักโทษชายทักษิณ" เพียงเพื่อหวังให้เกิดการเจรจา ซึ่งไม่ใช่แค่ระดับรัฐบาล และระดับอำมาตย์ ท่ามกลางเงื่อนไขที่ยากต่อความเป็นไปได้

แต่ความจริงแล้วเป้าหมายหลักของ "นักโทษชายทักษิณ" คือ การเลือกตั้งใหม่เท่านั้น

นี่จึงเป็นเหตุผลหลักให้กลุ่มคนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทย ยิ่งรุกหนัก ตอกลิ่มความขัดแย้ง ด้วยการเดินหน้าเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลของรัฐบาล

ไล่ตั้งแต่การอ้างเอกสารมัดตัว กอรป์ศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการทุจริตโครงการชุมชนพอเพียง

การไล่ต้อน "อภิสิทธิ์" กับ กษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ด้วยการปูดเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศ กับแผนลอบสังหารทักษิณ จนถึงขั้นเตรียมการปฏิวัติในเขมร

ล่าสุดออกมาแฉ กรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เรื่องการอัพเกรดตั๋วเครื่องบินให้ภรรยาและบุตร เป็นชั้นเฟิร์สคลาส

เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีการออกมาแฉรัฐมนตรีในรัฐบาลเพิ่มขึ้นอีก เพื่อเรียกแรงผลักดันให้กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหว

นาทีนี้พรรคร่วมรัฐบาลจึงต้องคิดทบทวนอย่างหนัก เพราะจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล สังเกตจาก บรรหาร ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ออกมาส่งสัญญาณเร่งให้รัฐบาลเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญให้เร็วที่สุด

ถึงขนาดยอมลดเงื่อนไขจาก 6 ประเด็น ให้เหลือเพียง 2 ประเด็นเท่านั้น คือ มาตรา 190 กับการเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว เพราะจะทำให้การหาเสียงง่ายขึ้นและไม่ต้องสิ้นเปลืองกระสุนดินดำ

นี่จึงเป็นการส่งสัญญาณบีบจากพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้ง หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ฟัง อาจจะมีผลต่อพรรคร่วมก็เป็นได้

ยิ่งในยามที่ "นักโทษชายทักษิณ" พยายามเดินเกมแยกพรรคร่วมออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เพราะที่สุดแล้ว พรรคร่วมนี่แหละที่จะเป็นตัวแปรสำคัญในการเมืองปีหน้า

ขณะที่ประชาธิปัตย์เองก็มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ที่ผ่านมา เพื่อตรวจการบ้านรัฐมนตรีในโควตาของพรรค เพื่อปรับแผนยุทธศาสตร์และรับมือการทำงานในปี 2553

โดยที่ประชุมประเมินว่า "นักโทษชายทักษิณ" มีความพยายามเคลื่อนไหวทุกรูปแบบ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทั้งตามกฎหมายและนอกกฎหมาย ที่อาจจะนำไปสู่สงครามกลางเมือง หรือเหตุการณ์ซ้ำรอยสงกรานต์เลือด 2552

นั่นเพราะสถานการณ์ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

สัญญาณเหล่านี้จึงอันตรายอย่างยิ่ง ทั้งต่อรัฐบาลและต่อความสงบสุขของประเทศชาติ !!!

บัญชา แข็งขัน

ที่มา ข่าวการเมือง ข่าวชุมนุมเสื้อแดง ข่าวทักษิณ จาก คมชัดลึก