
Suthichaiyoon : เห็น ภาพเหลือเชื่อที่นายกฯ ฮุนเซน ของกัมพูชา เปิดบ้านตัวเองต้อนรับ คุณศิวรักษ์ ชุติพงษ์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาแล้วก็เกิดคำถามว่าอย่างนี้ความสัมพันธ์ไทยกับ กัมพูชา จะกลับสู่ภาวะปกติได้อย่างไร?
เพราะ ทักษิณ ชินวัตร กับ ฮุนเซน เล่นละครลวงโลกอย่างนี้ ความสงบสุขของประชาชนคนไทยกับคนกัมพูชา ก็ย่อมจะโดน "คลื่นรบกวน" อย่างนี้ตลอดไป
หรือ ฮุนเซน มีสิทธิจะกำหนดว่าประเทศไทยมีใครเป็นนายกฯ เขาจึงจะมีความสัมพันธ์อย่างเป็นปกติ?
หากไทยตั้งเงื่อนไขบ้างว่าตราบใดที่กัมพูชา มีนายกฯ ชื่อ ฮุนเซน คนไทยก็จะไม่มีความสุขบ้าง? จะเกิดอะไรขึ้น?
ตาม กติกาสากลของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น เรื่องอะไรภายในของบ้านอื่นเป็นเรื่องของเขา เว้นเสียแต่ว่าเรื่องนั้นๆ จะฝ่าฝืนมาตรฐานสากลอย่างจัง
แต่กรณีไทยกับกัมพูชานั้น ฮุนเซน ยึดหลักการอย่างเดียว... "ทักษิณ เป็นเพื่อนของผม" โดยไม่สนใจว่ารัฐบาลไทยที่ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นผู้นำขณะนี้เป็นสถาบันการเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมายและกติการะหว่าง ประเทศอย่างที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบนายกฯ คนนี้ ก็ตาม
คุณศิวรักษ์ พูดถูกแล้วที่บอกว่า "ผมรู้สึกว่าผมเป็นเหยื่อ" และถูกต้องเช่นกันที่บอกว่า
"เรื่อง แบบนี้คงไม่มีใครไปจัดฉาก คงไม่มีใครเอาชีวิตลูกไปเล่นตลก และคงไม่มีใครอยากให้ลูกของตัวเองเข้าไปอยู่ในคุก ผมรู้สึกว่าผมเป็นเหยื่อ แต่ในแง่ไหนผมไม่ทราบ..."
เพราะที่คนส่วนใหญ่บอกว่ามีการ "จัดฉาก" นั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณศิวรักษ์ มีส่วนในการจัดฉาก หากแต่หมายความว่าทักษิณ-ชวลิต-ฮุนเซน เป็นผู้ร่วมกันเขียน "บท" นี้ขึ้นมา และคุณศิวรักษ์ เป็นเพียง "เบี้ย" ของเกมการเมืองนี้เท่านั้น
ไม่ว่า "คุณคำรบ" เลขานุการเอกของสถานทูต ประจำกรุงพนมเปญจะพูดอะไรกับ "คุณศิวรักษ์" ทางโทรศัพท์วันนั้น และไม่ว่าศาลกัมพูชาจะตัดสินอย่างไร สิ่งที่ชัดเจนก็คือ ว่า "บท" ที่เขียนเอาไว้ตั้งแต่ต้นคือการจับคนไทยคนใดคนหนึ่งเป็น "ตัวประกัน" เพื่อที่จะ "ปล่อย" ตัวออกมา สร้างสถานการณ์ให้ทักษิณเป็นพระเอกของงานนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
อย่าลืมว่าคุณศิวรักษ์ ยืนยันตั้งแต่ต้นจนนาทีสุดท้ายว่าเขาไม่ได้เป็น "สายลับ" ของรัฐบาลไทยและ "ข่าวสารที่กล่าวหาผมก็เป็นข้อมูลทั่วๆ ไป ที่สามารถรู้กันได้"
ความจริง สื่อมวลชนกัมพูชา รายงานเรื่องเครื่องบินทักษิณ ลงจอดพนมเปญ ก่อนหน้าที่ "คุณคำรบ" จะโทรศัพท์ไปหา "คุณศิวรักษ์" ด้วยซ้ำไป
ดัง นั้น เมื่อทักษิณ บินเข้าพนมเปญเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อร่วมพิธีอันเอิกเกริก เพื่อปล่อยตัวคุณศิวรักษ์จึงเป็นปรากฏการณ์ประหลาดอย่างยิ่ง
ย้อนไป อ่านคำกล่าวหาของรัฐบาลของฮุนเซน ตอนตั้งข้อหาศิวรักษ์ (สายลับที่กระทบความมั่นคงของกัมพูชา และความปลอดภัยส่วนตัวของทักษิณและฮุนเซน) แล้วดูภาพที่ฮุนเซนแสดงความรักใคร่สนิทสนมกับศิวรักษ์และคุณแม่
ฮุนเซน เรียกตัวเองว่า "อา" และเรียกศิวรักษ์ว่า "หลาน" ตลอดพิธีให้อิสรภาพกับศิวรักษ์
นัก โทษที่เคยได้รับพระราชทานอภัยโทษจากรัฐบาลเขมรที่ผ่าน ๆ มานั้นไม่เคยปรากฏว่ามีการทำพิธีที่ออกข่าวผ่านสื่อที่นั่นอย่างเกรียวกราว เท่านี้
ย้อนไปดูภาพทักษิณนั่งซักไซ้ไล่เลียงศิวรักษ์ ในเรือนจำเพรย์ซอว์ที่พนมเปญอีกครั้งหนึ่ง จะเห็นว่าเป็นเรื่องผิดปกติอย่างเหลือเชื่อ
เพราะข่าวบอกว่าทักษิณต้องการจะสอบถามด้วยตัวเองว่าศิวรักษ์ได้รับการ "บงการ" จากใคร?
เสมือนหนึ่งว่าทักษิณ มีเงื่อนไขว่าศิวรักษ์จะต้องยอมรับ ว่ารัฐบาลไทยบงการเขาให้ทำตัวเป็น "สายลับ" ทุกอย่างจึงจะเรียบร้อยสำหรับวิศวกรไทยผู้น่าเห็นใจคนนี้
บาง คนบอกว่าเห็นภาพฮุนเซน ปฏิบัติต่อศิวรักษ์ วันนั้นแล้ว คล้ายๆ กับต้อนรับลูกคนโตกลับจากเรียนหนังสือเมืองนอกด้วยความยินดีปรีดายิ่ง ...หรือไม่ก็เหมือนเป็นลูกเขยคนล่าสุดของผู้นำเขมรคนนี้ที่พ่อตาต้องเอาใจ เป็นพิเศษ
เป็นไปได้อย่างไรที่ "จารชน" คนหนึ่ง จะกลายเป็น "วีรบุรุษ" ในระยะเวลาอันสั้นเช่นนั้น?
ฮุนเซน ต้องการอะไรจากการจัดฉากเช่นนี้ ไม่ต้องวิเคราะห์ให้ยาก...แต่เขารู้หรือไม่ว่านั่นคือการตบหน้าคนไทยจำนวนมาก
หรือเขาคิดว่าคนไทยติดละครน้ำเน่าอยู่แล้ว จัดฉากละครให้เน่ากว่านิยายก็ไม่เห็นจะเป็นไร?
คำถามทิ้งท้าย...ทำไมทักษิณจึง "อายกล้อง" ...ไม่ยอมถ่ายรูปร่วมกับฮุนเซนและศิวรักษ์ ในวัน "ปล่อยตัว" ศิวรักษ์?
ทำไม "บิ๊กจิ๋ว" จึงตัดสินใจนาทีสุดท้าย ไม่ไปร่วมพิธีนี้?
และคำถามที่กัมพูชายังไม่กล้าตอบจนถึงวันนี้...
ถ้ารู้ว่าเลขานุการเอกของสถานทูตไทยพูดอะไรกับ "ศิวรักษ์" ...ก็แปลว่ารัฐบาลเขมรดักฟังโทรศัพท์ของสถานทูตไทยที่กัมพูชา...ใช่หรือไม่?
เทปนั้นอยู่ไหน? อะไรเป็นหลักฐานที่ตำรวจเขมรมีเพื่อจับ "ศิวรักษ์" ตั้งแต่วันแรก?
หัวข้อ ข่าวฮุนเซน ข่าวกัมพูชา ข่าวศิวรักษ์ ข่าวทักษิณ ข่าวการเมือง ข่าวต่างประเทศ จาก Suthichaiyoon.com
0 comments:
แสดงความคิดเห็น