"สิมารักษ์"วอน "จิ๋ว-ทักษิณ-เพื่อไทย"ช่วยลูก

Suthichaiyoon.com : หลังจากที่ศาลกัมพูชาตัดสินจำคุก "ศิวรักษ์ ชุติพงษ์" 7 ปี ข้อหาจารกรรมข้อมูลการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ฝ่ายอัยการกัมพูชา ระบุระหว่างการไต่สวนว่า เป็นเหมือนพลเมืองกัมพูชา จึงไม่มีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณะได้รับรู้ โดยที่แม่วิศวกรไทยโฟนอิน"เพื่อไทย" วอน "บิ๊กจิ๋ว-ทักษิณ" ช่วยลูกชาย เตรียมขออภัยโทษไม่คิดอุทธรณ์ เมินรับความช่วยเหลือจากรัฐบาล เพราะขัดแย้งเขมร ถามหาความรับผิดชอบ "คำรบ" ต้นเหตุทำลูกชายรับกรรม

ใน การอ่านคำพิพากษ์วานนี้ (8 ธ.ค.) ศาลกัมพูชาได้อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าฟังการอ่านคำตัดสิน แต่ห้ามบันทึกภาพและเสียง โดยที่หลังจากมารดานายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ทราบคำตัดสิน ถึงกับร่ำไห้ ส่วนนายศิวรักษ์ได้ถูกควบคุมตัวกลับเรือนจำทันที โดยมีเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธปืนรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะที่นางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดา อุปทูตไทยประจำกัมพูชา และเจ้าหน้าที่กงสุล ได้มารออยู่ก่อนหน้าแล้ว

เมื่อเวลา 17.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นางสิมารักษ์ ได้โฟนอินมาร่วมแถลงข่าวกับนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย หลังจากทราบผลการตัดสินของศาลกัมพูชา โดยนางสิมารักษ์ กล่าวว่า จากนี้ไปคงไม่มีที่พึ่งไหนอีกแล้ว จึงอยากขอความช่วยเหลือจาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ช่วยลูกชายให้ได้รับอิสรภาพ โดยการขอพระราชทานอภัยโทษให้

ขณะที่ นายพร้อมพงศ์ ได้กล่าวว่า ขอให้นางสิมารักษ์ ณ นครพนม คัดสำเนาคำพิพากษาส่งมาให้พรรคเพื่อไทย เพื่อนำมาหารือกับฝ่ายกฎหมาย พล.อ.ชวลิต และนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ จากนั้น นางสิมารักษ์ กล่าวว่า ได้คุยกับทนายความแล้วว่าจะสามารถทำสำเนาได้ในวันที่ 9 ธ.ค. ขอฝากเรียน พล.อ.ชวลิต อีกครั้งให้ช่วยตน และลูกด้วย เพราะสภาพจิตใจของตนตอนนี้สุดๆ แล้ว ยิ่งเห็นลูกถูกพันธนาการ น้ำตามันกลั้นไม่อยู่ ทุกคนคงได้ยินคำพิพากษาแล้ว

ถามหาความรับผิดชอบ "คำรบ"

“สิ่งที่อดกลั้นมานาน และไม่เคยปริปากพูดหรือขอร้อง วันนี้เมื่อทุกคนทราบข้อเท็จจริงแล้ว อยากฝากถามนายคำรบ ปาลวัฒน์วิชัย เลขานุการเอกประจำสถานทูตไทยในกัมพูชา ว่าเวลานี้อยู่ที่ไหน ถ้าไม่โทรศัพท์มาหาลูกชาย ก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพอย่างนี้ ขอให้ออกมารับผิดชอบด้วย ที่ผ่านมาไม่เคยพูดว่าใครเป็นต้นเหตุให้ลูกต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ แต่วันนี้ลูกอยู่ในสภาพถูกใส่กุญแจมือ รับไม่ได้ ทำใจไม่ได้จริงๆ ศิวรักษ์เป็นผู้บริสุทธิ์ จะให้เขารับผิดชอบแทน คุณคำรบ ออกมาแสดงความรับผิดชอบสักหน่อย น้องเขาอยู่ที่เรือนจำเกือบ 30 วันแล้ว ถ้าใครมาเห็นสภาพตอนนี้ แม้แต่แม่เองก็ยังทนไม่ไหว” นางสิมารักษ์กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ไม่อุทธรณ์คดี-เล็งยื่นขออภัยโทษ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทนายความจะยื่นขอพระราชทานอภัยโทษทันทีเลยหรือไม่ นางสิมารักษ์ กล่าวว่า ยังไม่คุยรายละเอียด แต่อยากให้ทุกฝ่ายให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้นจะไม่ยื่นอุทธรณ์คดีจะได้ไม่ยืดเยื้อออกไปอีก

เมื่อถามว่า กระทรวงการต่างประเทศก็จะยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้ด้วยเช่นกัน นางสิมารักษ์ กล่าวว่า จะหารือกับทนายก่อน เพราะเวลานี้ฝากความหวังไว้ที่ทนาย พล.อ.ชวลิต พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ขณะนี้มีความขัดแย้งมาก ไม่อยากให้ใช้นายศิวรักษ์มาเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งทางการเมือง เราเป็นคนไทยด้วยกันช่วยกันดีกว่า อยากให้สงสารครอบครัวตนด้วย

เมินรับความช่วยเหลือจากรัฐบาล

เมื่อถามว่า กระทรวงการต่างประเทศไม่สามารถช่วยเหลือได้หรือ นางสิมารักษ์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศมีความขัดแย้งกับประเทศกัมพูชา เกรงว่าจะเป็นอุปสรรคส่วนหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดความล่าช้าได้ ตนคำนึงถึงอิสรภาพของลูกก่อนอื่น เพราะคนที่มีปัญหากันแล้วไปเจรจากัน โอกาสที่จะได้คุยกันก็คงลำบาก

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า วันนี้มีการประชุมคณะยุทธศาสตร์และการเมืองของพรรคมีการนำเรื่องนี้มาหรือ ยืนยันจะให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมอย่างเต็มที่ และยืนยันว่าจะไม่แทรกแซงกิจการภายในของกัมพูชา เคารพการตัดสินของกัมพูชา แต่จะขอความอนุเคราะห์จากสมเด็จ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ให้ขอพระราชทานอภัยโทษให้

"ขอกราบวิงวอนนักการเมืองไม่ว่าจะเป็นขั้วไหนอย่านำความช่วยเหลือตรงนี้ไป บิดเบือนเป็นประเด็นการเมือง จากนี้จะรอสำเนาคำพิพากษาของศาลเพื่อมาหารือกับฝ่ายกฎหมาย และ พล.อ.ชวลิต และนายนพดลต่อไป นอกจากนี้ นางสิมารักษ์ยังฝากบอกว่า หากกระทรวงการต่างประเทศอยากช่วยเหลือ ก็ขอให้อยู่นิ่งๆ รวมทั้งนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ ก็ขอให้อยู่นิ่งๆ และตอนนี้นางสิมารักษ์ก็ไม่ขอพักในโรงแรมที่ทางกระทรวงการต่างประเทศจัดให้ ด้วย" โฆษกเพื่อไทยระบุ

ศาลเขมรสั่งจำคุก "ศิวรักษ์" 7 ปี

โดยเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ศาลกัมพูชา มีคำพิพากษาจำคุกนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทย ของบริษัทแคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิสเซส (แคทส์) นาน 7 ปี พร้อมสั่งปรับเป็นเงิน 10 ล้านรีล หรือราว 87,500 บาท ในข้อหาจารกรรมข้อมูลการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อส่งมอบให้กับสถานทูตไทย ระหว่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเยือนกัมพูชา เมื่อเดือนที่แล้ว

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าวถึงคำตัดสินข้างต้นของศาลกัมพูชาว่า ขณะนี้มีอยู่ 2 แนวทาง กระทรวงการต่างประเทศจะประสานผ่านกรมการกงสุล ไปยังนางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดานายศิวรักษ์ เกี่ยวกับการตัดสินใจจะยื่นอุทธรณ์ต่อไปหรือไม่ หากไม่ยื่น ก็เสมือนกันยอมรับผิด โดยรัฐบาลก็พร้อมจะดำเนินการยื่นขออภัยโทษ ส่วนจะใช้ระยะเวลาเท่าไรนั้น นายเขียว สัมโบ ทนายความของนายศิวรักษ์จะเป็นผู้ดูรายละเอียด

สำหรับบรรยากาศทั่วไปในการพิจารณาคดีที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้านั้น นายศิวรักษ์ ได้ขึ้นให้การต่อศาลกัมพูชา โดยยืนยันว่า ไม่ได้โจรกรรมข้อมูลอย่างที่ถูกกล่าวหา แต่ยอมรับว่ารู้จักกับนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอก ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ มาเกือบ 2 ปี แต่ไม่ได้ติดต่อหรือสนิทสนมกัน

นายศิวรักษ์ยอมรับว่า นายคำรบได้โทรศัพท์สอบถามเรื่องเที่ยวบิน ซึ่งในฐานะที่เขาทำงานด้านนี้ จึงได้สอบถามเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่เป็นชาวกัมพูชา และเพื่อนได้ส่งสำเนาให้ แต่เขาไม่ได้ส่งต่อให้นายคำรบ พร้อมยืนยันว่า การสอบถามเพื่อนชาวกัมพูชาไม่ได้เป็นความลับ เป็นเรื่องปกติของการทำงาน

หลังจากนั้นศาลได้ไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์อีก 2 ปาก ซึ่งเป็นพนักงานชาวกัมพูชาของบริษัทแคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิสเซส โดยพยานปากแรก ให้การว่า นายศิวรักษ์ได้มาสอบถามเรื่องตารางการบิน จึงได้เดินขึ้นไปที่ชั้น 3 ภายในที่ทำงานพร้อมกับนายศิวรักษ์เพื่อดูตารางการบิน จากนั้นนายศิวรักษ์ ได้จดข้อมูลใส่มือ ซึ่งส่วนตัวพยานมองว่า เป็นเรื่องที่ไม่ดี แต่ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นนายศิวรักษ์ ได้ดำเนินการอย่างไรต่อไป

ส่วนพยานโจทก์ปากที่ 2 เป็นวิศวกรของบริษัท ให้การต่อศาลว่า เห็นนายศิวรักษ์ และพยานปากแรกเดินขึ้นมาที่ชั้น 3 เพื่อดูตารางการบิน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ และไม่รู้ว่า ทั้ง 2 คนดำเนินการอย่างไรต่อ

ระหว่างการไต่สวนนั้น อัยการฝ่ายโจทก์สรุปสำนวนฟ้องนายศิวรักษ์ โดยมีช่วงหนึ่งระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นพลเมืองกัมพูชา ดังนั้นข้อมูลตารางการบินของเขาจึงไม่สามารถนำไปเปิดเผยต่อสาธารณะได้ พร้อมแสดงหลักฐานให้ศาลเห็นว่า เป็นเรื่องผิดกฎหมายที่นายศิวรักษ์ จะสอบถามข้อมูลดังกล่าว จากพนักงานควบคุมหอบังคับการบิน

อัยการฝ่ายกัมพูชาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลกัมพูชา จึงเปรียบเสมือนพลเมืองของกัมพูชาคนหนึ่ง และไม่สามารถเปิดเผยตารางการบินของเขาได้ แม้ข้อมูลนั้นจะเป็นข้อมูลสาธารณะก็ตาม และว่า ข้อมูลดังกล่าว ยังเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของกัมพูชาด้วย

ที่มา ข่าวคดีศิวรักษ์ ข่าวกัมพูชา ข่าวต่างประเทศ ข่าวการเมือง จาก Suthichaiyoon.com