ทำผิดกฎหมายกลางทำเนียบรัฐบาล แค่ลาออกอย่างเดียวพอหรือไม่?

ไทยโพสต์ : การ ประกาศลาออกจากการเป็นข้าราชการการเมืองประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ของนางสาวจิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี ทายาทตระกูลบุญรอด บริวเวอรี่ บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ของประเทศไทย กรณีอื้อฉาวทำผิดกฎหมายและผิดจริยธรรมทางการเมืองกลางทำเนียบรัฐบาล ศูนย์กลางอำนาจรัฐ กับการนำปฏิทินนางแบบถ่ายภาพวาบหวิวเพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์เครื่องดื่ม เบียร์ยี่ห้อ ลีโอ ไปแจกจ่ายที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2552

จนทำให้ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมทั้งทางกฎหมาย จริยธรรม และศีลธรรมอันดีของสังคม จนสุดท้ายนางสาวจิตภัสร์ก็ต้องยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 17 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม แม้นางสาวจิตภัสร์จะได้ลาออกไปแล้ว แต่คำถามที่ตามมาก็คือ การแสดงความรับผิดชอบดังกล่าวเพียงพอหรือไม่ แล้วเจ้าหน้าที่ของรัฐเช่นกระทรวงสาธารณสุขจะมีการเอาผิดทางกฎหมายหรือ ดำเนินการตรวจสอบ-สอบสวนกับอดีตคณะทำงานของนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นทายาทตระกูลน้ำเมาอันโด่งดังและร่ำรวยคนนี้หรือไม่

เพราะเมื่อพิจารณาจากหนังสือลาออกดังกล่าวจะพบว่า นางจิตภัสร์ได้ปฏิเสธว่าเธอไม่ได้มีเจตนาที่จะนำปฏิทินมาแจกจ่าย แต่เป็นเพราะมีคนที่รู้จักในทำเนียบรัฐบาลหลายคนสนใจปฏิทินนี้ ประกอบกับเห็นว่าเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงได้นำติดรถมา และสื่อมวลชนเห็นจึงเข้าไปขอปฏิทินด้วย โดยไม่ทันได้คิดเลยว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ อย่างไรก็ตาม นางจิตภัสร์ได้ระบุในหนังสือ โดยยอมรับว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่ทำความพลาดพลั้ง เนื่องจากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว รวมทั้งได้กราบขอโทษไปยังประชาชนทั้งประ

เทศที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่เหมาะสมขึ้นในทำเนียบรัฐบาล โดยเธอได้ระบุในตอนท้ายหนังสือลาออกว่า

"ดิฉันจึงขอแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยการลาออกจาก ตำแหน่งข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยมีผลนับตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค.2552 บทเรียนครั้งนี้เป็นสิ่งมีค่ามาก และจะเป็นเครื่องเตือนสติดิฉันว่า ทุกๆ การกระทำต้องมีความระมัดระวังและรอบคอบ และหวังว่าสังคมการเมืองจะยังเปิดโอกาสให้ดิฉันได้พิสูจน์ตัวเองในภายภาค หน้า"

อันดับแรกกระแสสังคมส่วนหนึ่งคงชื่นชมนางสาวจิตภัสร์ว่า เมื่อทำผิดก็ยอมรับผิดและไม่ดันทุรังอยู่ในตำแหน่งหลังจากได้ทำผิดพลาดทั้ง ทางกฎหมายและจริยธรรมอันดีของสังคม เพราะแม้หน้าที่การงานของนางสาวจิตภัสร์จะไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ก็ถือว่าเป็นตำแหน่งทางการเมืองที่สังคมจับตามองอยู่ทุกฝีก้าว ที่สำคัญยังเป็นการทำงานในทำเนียบรัฐบาล ศูนย์กลางอำนาจรัฐและการรักษากฎหมาย เมื่อทำในสิ่งที่ไม่ควรให้อภัยเช่นนี้ ไม่มีทางออกอย่างอื่นนอกจากต้องลาออกสถานเดียวอยู่แล้ว

อีกทั้งที่ผ่านมานางสาวจิตภัสร์เคยให้สัมภาษณ์หลายครั้งว่า มีความสนใจในทางการเมือง และต้องการเข้ามาอยู่บนถนนการเมืองแห่งนี้ในอนาคต ดังนั้น ด้วยอายุที่ยังน้อยและยังมีเวลาสะสมประสบการณ์และการทำงานการเมืองอีกมาก การลาออกของนางสาวจิตภัสร์จึงไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายแต่อย่างใด เพราะหากไม่ลาออกเชื่อได้ว่าไม่ใช่แค่นางสาวจิตภัสร์จะปิดฉากอนาคตการเมือง และเสียชื่อเสียงส่วนตัวและวงศ์ตระกูล แต่จะทำให้หลายคนในทำเนียบรัฐบาล รวมถึงแม้แต่ตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เสียหายไปด้วย

นี่จึงเป็นบทเรียนราคาแพงที่แสดงให้เห็นว่าการเป็นบุคคลสาธารณะหรือบุคคลทาง การเมือง จะต้องมีจิตสำนึกในการทำหน้าที่บนความถูกต้องของกฎหมายและจริยธรรมทางการ เมือง และสังคมทุกขณะ ไม่เช่นนั้นเมื่อเกิดข้อผิดพลาดแล้วจะมาบอกว่าไม่ได้ตั้งใจแบบเดียวกับนาง สาวจิตภัสร์คงไม่ได้.

ที่มา ข่าวปฏิทินลีโอ ข่าวจิตภัสร์ จาก ไทยโพสต์