ข่าวเด่น ข่าวร้อนวันนี้ : กรุงเทพธุรกิจ

15 พฤศจิกายน 2552

แนวหน้า : นช.แม้วเดิมพันสู้เลือดเข้าตา โหมไฟสงครามแตกหัก

นช.แม้วเดิมพันสู้เลือดเข้าตา โหมไฟสงครามแตกหัก (แนวหน้าวิเคราะห์) - การสมคบกันระหว่างนักโทษชายแม้วซึ่งมี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย เป็น "เบ๊รับใช้"และทำหน้าที่เป็นกุนซือใหญ่กับสมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติไทยและรัฐบาลไทยจนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชากำลังลุกลามบานปลายเพิ่มความตึงเครียดขึ้นทุกขณะ ซี่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเรียกได้ว่าเป็นการทำสงครามขั้นแตกหักแบบเทหมดหน้าตักที่อาจเดิมพันด้วยการคงอยู่หรือล่มสลายทั้งของตัวนักโทษชายแม้ว พล.อ.ชวลิต และสมเด็จฮุนเซ็น ตลอดจนเครือข่ายอันเป็นขุมกำลังของนักโทษชายแม้ว นั่นคือพรรคเพื่อไทยและม็อบคนเสื้อแดง

การเดินหน้าทำสงครามขั้นแตกหักแบบเลือดเข้าตาด้วยอาการสติแตกของ นักโทษชายแม้ว เนื่องจากการทำสงครามทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา นักโทษชายแม้ว ต้องประสบความพ่ายแพ้ทุกแนวรบไม่สามารถที่จะโค่นล้มรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของ นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐกลับคืนมาเป็นฝ่ายของตัวเองได้ โดยเฉพาะความล้มเหลวของม็อบคนเสื้อแดงที่แม้จะพยายามสร้างสถานการณ์รุนแรงเพื่อนำไปสู่สงครามกลางเมืองด้วยการก่อจลาจลแดงเดือดทั่วกรุงเทพมหานครและบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาเซียนและผู้นำชาติคู่เจรจาที่พัทยาช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา แต่ก็ถูกรัฐบาลอภิสิทธิ์แก้ไขสถานการณ์จนสลายม็อบได้สำเร็จโดยไม่มีการเสียเลือดเนื้อ

สถานการณ์หลังช่วงสงกรานต์แดงเดือดที่ผ่านมา แม้ม็อบคนเสื้อแดงภายใต้การบงการของ นักโทษชายแม้วจะพยายามทำทุกวิธีทางเพื่อสร้างสถาการณ์ให้เกิดความรุนแรง แต่ภาพของม็อบคนเสื้อแดงที่ก่อจลาจลเผาบ้านป่วนเมืองทำลายประเทศชาติจนย่อยยับเพื่อคนเพียงคนเดียวคือ นักโทษแม้ว ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาทำให้ถูกสังคมประณามและต่อต้านโดยถูกมองว่าเป็นพวกคอยตีรวนป่วนเมืองทำให้การนัดชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดงหวังโค่นล้มรัฐบาลหลายครั้งที่ผ่านมาประสบความล้มเหลวเนื่องจากไร้ความชอบธรรมและประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศรับไม่ได้

นั่นคือที่มาที่ทำให้ นักโทษชายแม้ว ต้องพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดด้วยการหันมาใช้บริการ อดีตนายกรัฐมนตรีวัยเกือบ 80 ปีอย่าง พล.อ.ชวลิต เพื่อถือธงนำพรรคเพื่อไทยและร่วมวางแผนช่วงชิงอำนาจรัฐเพื่อเป้าหมายสำคัญสูงสุดของ นักโทษชายแม้ว นั่นคือฟอกโทษความผิดคดีทุจริตของตัวเองทั้งหมด และที่สำคัญคือทวงทรัพย์สินมูลค่า 76,000 ล้านบาท ของตัวเองที่ถูกฟ้องยึดตกเป็นของแผ่นดินคืนเพราะคดีนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกำลังจะพิพากษาชี้ขาด โดยคาดว่าน่าจะเป็นภายในเดือนธ.ค.นี้ นอกจากนี้ นักโทษชายแม้ว ยังอาจหวังลึกๆที่จะหวนคืนสู่อำนาจกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ

แผนยุทธศาสตร์ทรยศแผ่นดินชักศึกเผาบ้านทำลายเมืองใช้ประเทศเพื่อนบ้านบ่อนทำลายรัฐบาลไทยดำเนินไปอย่างเป็นขั้นตอนและชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ พล.อ.ชวลิต ซึ่งเชื่อว่ารับใบสั่งจาก นักโทษชายแม้ว บินไปหารือสมคบกับ สมเด็จฮุนเซ็น ที่กรุงพนมเปญ จากนั้นปฏิบัติการถล่มบ่อนทำลายรัฐบาลไทยชนิดถ่อย ดิบ เถื่อนก็เปิดฉากตามมาเป็นระลอกนับตั้งแต่ สมเด็จฮุนเซ็น ตบหน้าประเทศไทยและรัฐบาลไทยด้วยการประกาศขณะเดินทางมาร่วมประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาเซียนและผู้นำชาติคู่เจรจาที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพว่า รัฐบาล จะไม่ส่งตัว นักโทษชายแม้ว ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนให้ทางการไทยอย่างเด็ดขาดแม้จะได้รับการประสานร้องด้วยเหตุผลเพียงเพราะความเป็นเพื่อนระหว่าง นักโทษชายแม้ว กับผู้นำกัมพูชา รวมทั้งอ้างว่า นักโทษชายแม้ว ไม่ได้รับความเป็นธรรมที่ถูกศาลไทยพิพากษาจำคุก 2 ปี ด้วยสาเหตุทางการเมือง นอกจากนี้รัฐบาลกัมพูชายังจะสร้างคฤหาสน์หรูไว้ต้อนรับ นักโทษชายแม้ว ที่สามารถเดินทางเข้าออกกัมพูชาได้ตลอดเวลาและเคลื่อนไหวทางการเมืองได้อย่างเป็นอิสระจนกว่าเป้าหมายของ นักโทษชายแม้ว จะประสบผลสำเร็จ อีกทั้งรัฐบาลกัมพูชายังได้แต่งตั้ง นักโทษชายแม้ว เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชาด้วย

พฤติกรรมของผู้นำกัมพูชาสะท้อนความถ่อย ดิบ เถื่อน ทำตามความพอใจของตัวเองเป็นหลักโดยไม่คำนึงถึงการทำผิดธรรมเนียมทางการทูต อย่างร้ายแรงเพราะเท่ากับเป็นการดูหมิ่นกระบวนการยุติธรรมไทย ละเมิดสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่ไทยและกัมพูชาลงนามร่วมกันตั้งแต่ปี 2547 และที่ร้ายแรงกว่านั้นคือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของไทยโดยปล่อยให้นักโทษหนีความผิดและเป็นนายใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการที่มุ่งบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศไทยและพยายามล้มล้างรัฐบาลไทยโดยใช้ประเทศของตัวเองเป็นแหล่งเคลื่อนไหว

ทั้งๆ ที่เกิดกระแสชาตินิยมในหมู่คนไทยที่ต่างพากันประณามว่าทรยศขายชาติ ชักข้าศึกเข้ามาบ่อนทำลายเผาบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง แต่ นักโทษชายแม้ว ยังคงเดินหน้าสมคบกับสมเด็จฮุนเซ็น เดินเกมการเมืองเพื่อตัวเอง ด้วยการขึ้นเครื่องบินส่วนตัวบินไปเหยียบแผ่นดินเขมรตอบรับคำเชิญของ สมเด็จฮุนเซ็น ที่แต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา โดยนักโทษชายแม้ว หาได้แคร์ต่อการถูกตราหน้าว่าทรยศชาติขายแผ่นดินไม่ ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นถึงอดีตนายกฯที่ล่วงรู้ความลับของประเทศไทยมากมาย อีกทั้งยังมีผลประโยชน์ทับซ้อนร่วมกับ สมเด็จฮุนเซ็น การรับตำแหน่งที่ปรึกษาให้รัฐบาลกัมพูชาจึงยากที่จะเป็นปฏิเสธว่าเป็นการทรยศชาติขายแผ่นดิน

และทั้งๆ ที่เพิ่งสร้างปัญหาบ่อนทำลายบ้านเมืองด้วยกันสมคบกับผู้นำกัมพูชา นักโทษชายแม้ว ยังแสดงพฤติกรรมเหินเกริมด้วยการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพเดอะไทม์สออฟลอนดอน ซึ่งมีเนื้อหาจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงสะท้อนให้เห็นว่า นักโทษชายแม้ว กำลังอยู่ในอาการสติแตกเลือดเข้าตาพร้อมที่จะเปิดศึกแตกหักโดยไม่แคร์ต่อผลที่จะตามมา

ภายใต้ภาวะของคนที่พร้อมจะทำสงครามแตกหักแบบเลือดเข้าตาของ นักโทษชายแม้ว จึงเป็นสถานการณ์ที่อันตรายเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้หากวิเคราะห์การวางยุทธศาสตร์เพื่อทำสงครามครั้งสำคัญของ นักโทษชายแม้ว ครั้งนี้จะพบว่า เป็นการระดมสรรพกำลังทั้งในและนอกประเทศเพื่อ ล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์และช่วงชิงอำนาจรัฐมาเป็นฝ่ายของตัวเองให้ได้โดยเร็วที่สุดก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะตัดสินชี้ขาดคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ของ นักโทษชายแม้ว

ขณะที่ฝ่าย สมเด็จฮุนเซ็น ที่ยอมร่วมเล่นเกมแบบเดิมพันเทหมดหน้าตักกับ นักโทษชายแม้ว ก็คงประเมินแล้วเชื่อมั่นว่าถึงอย่างไร นักโทษชายแม้ว จะได้กลับมามีอำนาจยึดครองประเทศอีกแน่

อีกทั้งตราบใดที่นายกฯไทยยังชื่อ อภิสิทธิ์ ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่ สมเด็จฮุนเซ็น จะสมคบกันแสวงหาผลประโยชน์แบบต่างตอบแทนเหมือนเช่นกับที่เคยสมคบกับเพื่อนที่ชื่อ แม้ว โดยเฉพาะในกรณีพิพาทเรื่องปราสาทพระวิหารและผลประโยชน์จากแหล่งก๊าซและน้ำมันที่ประเมินกันว่ามีมูลค่าถึงกว่า 5 ล้านล้านบาทในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลของไทยและเขมรคือเค้กก้อนโตที่ สมเด็จฮุนเซ็น หมายมั่นจ้องตาเป็นมัน ยังไม่พูดถึงโครงการลงทุนอีกจำนวนมหาศาลที่ นักโทษชายแม้ว เคยตกลงไว้กับ สมเด็จฮุนเซ็น ก่อนหน้านี้ อาทิ โครงการเมกะโปรเจกท์ลงทุนด้วยเงินมูลค่านับแสนล้านบาทเพื่อเนรมิตเกาะกงของกัมพูชาเป็นเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกจนได้ชื่อว่าเป็นลาสเวกัสแห่งอาเชีย

ดังนั้นด้วยผลประโยชน์ร่วมกันทำให้ทั้ง นักโทษชายแม้ว และสมเด็จฮุนเซ็น จึงสมคบกันวางยุทธศาสตร์หมายล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์เพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐไทยด้วยการเดินเกมเดิมพันแบบหมดหน้าตัก โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรมหรือกระแสวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ ทั้งสิ้น

สำหรับยุทธศาสตร์ตามแผนของ นักโทษชายแม้ว ที่สมคบกับ พล.อ.ชวลิต และ สมเด็จฮุนเซ็น ก็คือแผนปฏิบัติการเปิดสงคราม 3 ด้าน เพื่อล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ทั้งจากในและนอกประเทศ

โดยสงครามจากนอกประเทศมี นักโทษชายแม้ว และ พล.อ.ชวลิต เป็นหัวหอกในการชักศึกเข้าบ้านเพื่อบ่อนทำลายรัฐบาลอภิสิทธิ์ โดยมีกัมพูชาเป็นฐานปฏิบัติการสำคัญ ซึ่งการที่ สมเด็จฮุนเซ็น ตั้ง นักโทษชายแม้ว เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา และบอกปัดการส่ง นักโทษชายแม้ว ให้กับทางการไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ซ้ำยังประกาศให้ที่พำนักและยอมให้ นักโทษชายแม้ว เข้าออกกัมพูชาเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองได้อย่างอิสระจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายเป็นการแสดงท่าทีของรัฐบาลบาลกัมพูชาว่านอกจากให้การปกป้อง นักโทษชายแม้ว แล้ว ยังแทรกแซงกิจการภายในของไทยด้วยการร่วมสนับสนุน นักโทษชายแม้ว วางแผนโค่นล้มรัฐบาลไทยด้วย และการแทรกแซงกิจการภายในของไทยอาจไปถึงขั้นที่รัฐบาลกัมพูชาให้กำลังทหารของตัวเองร่วมปฏิบัติการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลของไทยด้วย

ส่วนสงครามในประเทศเพื่อมุ่งโค่นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์นั้น สงครามแรกต้องจับตาการทำสงครามแตกหักแบบเทหมดหน้าตักของม็อบคนเสื้อแดงที่ประกาศอย่างแข็งกร้าวชัดเจนว่าจะชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาเพื่อปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลหวังล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ให้ได้ภายในเดือน พ.ย.นี้หรืออย่างช้าภายในปีนี้

สงครามที่สองขอให้จับตาความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ชวลิต ที่นอกจากเดินแผนชักศึกเข้าบ้านใช้ประเทศเพื่อนบ้านรุมถล่มรัฐบาลอภิสิทธิ์

เพราะฉะนั้นสถานการณ์ทางการเมืองจากนี้ไปมีแนวโน้มที่จะตึงเครียดและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นการทำสงครามแตกหักแบบเลือดเข้าตาของนักโทษชายแม้วที่พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อฟอกผิดคดีทุจริตทั้งหมดและทวงทรัพย์สินมูลค่า 76,000 ล้านบาท คืนโดยไม่คำนึงถึงหายนะที่จะเกิดกับชาติบ้านเมืองตามมา แม้แต่การทรยศแผ่นดินชักนำข้าศึกมาร่วมเผาบ้านทำลายเมือง อย่างไรก็ตาม ในด้านกลับกันยิ่งนักโทษชายแม้วเร่งเครื่องสมคบกับสมเด็จฮุนเซ็นแสดงความพฤติกรรมถ่อยเหยียดหยามบ่อนทำลายประเทศไทยและรัฐบาลอภิสิทธิ์มากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นการฆ่าตัวตายเร็วขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่นักโทษชายแม้วสติแตกเหิมเกริมให้สมภาษณ์หนังสือพิมพ์เดอะไทม์สของอังกฤษจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงยิ่งทำให้จุดจบของนักโทษชายแม้วมาถึงเร็วขึ้นเท่านั้น

ที่มา วิเคราะห์ข่าวการเมือง ข่าวทักษิณ ข่าวฮุนเซน ข่าวปัญหาไทย-กัมพูชา จาก แนวหน้าวิเคราะห์

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

 

ASTV ผู้จัดการ News

กรุงเทพธุรกิจ - ข่าวหน้าแรก

เกาะติดสื่อ ตามข่าวร้อน Copyright © 2009 WoodMag is Designed by Ipietoon for Free Blogger Template