
ท่าม กลางปัญหาความสัมพันธ์ไทย-เขมร ที่ถูกสร้างความปั่นป่วนโดยคนไทยไม่รักชาติแค่ไม่กี่คน มีอีกประเด็นหนึ่งที่ถูกเป็นห่วงจากหลายฝ่ายก็คือท่าทีของพรรคเพื่อไทย ที่มีนายใหญ่อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปร่วมด้วยช่วยเหลือคนที่วางตัวเสมือนเป็นปฏิปักษ์กับประเทศไทย อย่างฮุนเซน และยังมีประธานพรรคอย่าง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่บินไปจุ๊บปากกันถึงเขมร
ก่อนจะตามมาด้วยปัญหามากมาย จนพล.อ.ชวลิต ถูกกล่าวหาไปแล้วว่าชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน
ดัง นั้นความน่าเป็นห่วงก็คือว่าหากมีการเลือกตั้ง และดันไปเลือกเอาพรรคเพื่อไทยเข้ามา ทิศทางของชาติบ้านเมืองจะเป็นไปทางไหน ในเมื่อนายใหญ่ทำตัวเป็นกัมพูชามากกว่าเป็นคนไทย แล้วประเทศไทยจะเสียเปรียบ เสียประโยชน์ จะถูกกระทำย่ำยีศักดิ์ศรีอย่างไรหรือไม่ และสุดท้ายเมื่อเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นคนไทยจะยอม หรือจะรับได้อย่างนั้นหรือ
กรณีดังกล่าวรศ .ดร.สุทธิพงษ์ หกสุวรรณ ประธานสมาพันธ์นักวิชาการเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า พฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เริ่มเดินแผนการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการไปนั่งเป็นที่ปรึกษาให้กับฮุนเซน หรือแม้กระทั่งฮุนเซน ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องคดีของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งผลกระทบไปถึงกระบวนการยุติธรรมของไทย ซึ่งตนมองเจตนาเหล่านี้ว่าเป็นการทิ้งไพ่ใบสุดท้ายของพ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อเรียกร้องให้เกิดกระแสยอมรับจากประชาชนในเรื่องความสามารถ
อีก ทั้ง ใช้กระแสของประเทศเพื่อนบ้านมาเดินเกมกดดันจากภายนอก สอดรับกับพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มาช่วยเสริมกดดันจากภายใน แต่เรื่องมันกลับไม่เป็นไปตามที่พ.ต.ท.ทักษิณคิดเอาไว้ว่าจะเป็นกระแสต่อ ต้านแทนที่จะได้รับคะแนนนิยม ซ้ำร้ายกลายเป็นการส่งเสริมให้คะแนนนิยมของรัฐบาลอภิสิทธิ์พุ่งขึ้นมาแทน เท่ากับเป็นการทำพลาดเสียเอง
ยิ่งพฤติกรรมที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศไว้ในลักษณะของการหมิ่นต่อสถาบันอย่างรุนแรง นั้น เป็นเครื่องชี้เจตนาที่ชัดเจนว่าต้องการเพียงแค่ผลประโยชน์ของตัวเองและต้อง การดึงเอาสถาบันมากดดันเพื่อช่วยตัวเองเท่านั้น
ที่มา อ่านข่าวการเมือง ข่าวทักษิณฉบับเต็ม ได้ที่ ประชาทรรศน์
0 comments:
แสดงความคิดเห็น