
การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่นำโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 พฤศจิกายน ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมหามงคล กำลังเป็นที่จับตาและแสดงความเป็นห่วงของหลายฝ่าย เพราะเกรงว่าจะเกิดความยืดเยื้อและรุนแรง สร้างความเดือดร้อนกับประชาชนเป็นวงกว้างนั้น
คำบอกเล่าจากปากบรรดาแกนนำเองระบุว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมแตกหัก ชุมนุมยืดเยื้อไม่ชนะซึ่งหมายถึงการยุบสภาของรัฐบาล ก็จะไม่เลิกรา รวมไปถึงการขู่ว่าอย่าหวังจะฉลองปีใหม่อย่างสงบสุข จึงไม่สามารถรู้ได้ว่าระดับความรุนแรงของการชุมนุมจะดำเนินไปถึงขั้นไหน
ยิ่งประกอบกับท่าทีของคนเสื้อแดง พรรคเพื่อไทยและนายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร ที่ออกอาการท้าชน ไม่เว้นแม้แต่สถาบันเบื้องสูงที่เห็นได้จากการให้สัมภาษณ์สำนักข่าวต่างประเทศ ยิ่งมองเห็นถึงความอันตรายและเจตนาร้ายที่อาจจะแฝงเร้น เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองได้เดินทางกลับเข้าประเทศไทย อย่างบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่ต้องรับผิดชอบกับคดีความที่ได้ก่อไว้
ทั้งนี้ ล่าสุดยังมีรายงานข่าวด้วยว่าแกนนำเสื้อแดง “ส.” ได้ไปเคลื่อนไหวอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดนภาคเหนือมาเป็นเวลา 2-3 เดือนมาแล้ว เพื่อสั่งสมอาวุธสงคราม เตรียมเคลื่อนไหวตามแนวทางที่ตัวเองถนัด
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่ามีการสนับสนุนอาวุธสงครามจากประเทศข้างบ้านเข้ามาตามแนวชายแดน เข้ามาอยู่ในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีลังไม้ขนาดยาวนับร้อยลังเชื่อว่าเป็นอาวุธปืน และลังไม้สี่เหลี่ยมที่คาดจะเป็นเครื่องกระสุนและระเบิด
พร้อมกันนี้ยังมีรายงานถึงการนำคนต่างด้าวเข้ามาพักไว้ริมชายแดนเพื่อให้พร้อมเข้ามาก่อการทันที โดยการเลือกชุมนุมในช่วงเทศกาลวันมหามงคล นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความจ้วงจาบหยาบช้าแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาที่มีผู้ออกมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งง่ายต่อการแฝงตัวและเข้ามาก่อสถานการณ์ร้าย
ทั้งนี้ แหล่งข่าวระดับสูงยังอ้างคำพูดว่าออกมาจากปากแกนนำเสื้อแดงบางคนด้วยว่า หากสามารถทำให้มีการปะทะกัน ถ้ามีคนเจ็บ ถ้ามีคนตายเราก็ชนะ ซึ่งเท่ากับเป็นความพยายามล่อลวงประชาชนให้ออกไปเป็นเหยื่อ เพื่อนำไปสู่การขยายผล สร้างสถานการณ์ให้รุนแรงขึ้น โดยในช่วงเริ่มต้นของการชุมนุมจะพยายามยั่วยุเจ้าหน้าที่ของรัฐให้ทนไม่ได้ และมีการวางแผนไว้ถึงขั้นว่าหากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่หลงกล ก็จะวางแผนตีกันเองเพื่อสร้างสถานการณ์
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ผู้ที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียที่อยากจะออกมาร่วมชุมนุมต้องระมัดระวังให้มาก และต้องคอยหลบหลีกให้ดีหากมีการปะทะ หรือมีการสร้างสถานการณ์กันด้วยอาวุธหนัก เพราะทางเจ้าหน้าที่เองก็จะไม่ปล่อยให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายเช่นเดียวกัน เพราะมีข่าวยืนยันได้ว่าการชุมนุมครั้งนี้มีเป้าหมายยิ่งใหญ่เกินกว่าคนไทยจะยอมรับได้
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้เรียกหน่วยงานด้านความมั่นคง มาหารือที่กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อรับทราบข้อมูลการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมเสื้อแดง โดยเตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร ในพื้นที่เขตดุสิต แขวงโสมนัส และแขวงบางขุนพรหม ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน-14 ธันวาคม 2552
นายสุเทพ กล่าวว่า ที่ต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง ครอบคลุมช่วงที่มีการจัดงานวันเฉลิมพระชนมพรรษา เนื่องจากเกรงว่าการชุมนุมที่แกนนำกลุ่ม นปช. ประกาศว่าจะยืดเยื้ออาจจะเกิดผลกระทบต่อการจัดงาน ประชาชนที่เดินทางมาร่วมงาน รวมทั้งกำลังพลที่มาร่วมพิธีสวนสนาม
ส่วนกรณีที่แกนนำกลุ่ม นปช. จะนำกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางไปยังถนนสายสำคัญๆ ทั่วกรุงเทพฯ นั้น ครม. พร้อมที่จะขยายพื้นที่บังคับใช้ พ.ร.บ.มั่นคง เพิ่มเติมได้ในภายหลัง แต่ขณะนี้ต้องการรักษาสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบเรียบร้อยจึงจำกัดพื้นที่บังคับใช้กฎหมายดังกล่าว
นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า การเร่งเดินเกมของกลุ่มคนเสื้อแดงในขณะนี้เพราะต้องการหวังผลก่อนที่จะมีการตัดสินคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐบาลก็คงต้องมีการเตรียมความพร้อม เพื่อป้องกันเหตุร้ายให้รัดกุมมากขึ้น
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะขนคนต่างด้าวมาร่วมชุมนุมนั้นมีรายงานมาเป็นระยะ อย่างไรก็ตาม ขอเตือนว่ามีบางกรณีอาจผิดกฎหมาย และยังเป็นการบ่งบอกชัดเจนว่าไม่ใช่การแสดงออกทางการเมือง โดยต้องประเมินและดูแลอย่างเข้มงวด เพราะการดึงคนต่างด้าวมาร่วมชุมนุมถือว่าไม่เหมาะสม
นางเพ็ญพักตร์ ศรีทอง ประธานหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึง การชุมนุมของกลุ่ม นปช.ในวันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน ว่า นักธุรกิจไม่ต้องการเห็นการชุมนุม เพราะเป็นผลร้ายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ที่ผ่านมานักธุรกิจพยายามอดทนอดกลั้นให้สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นผ่านพ้นไป เพราะการชุมนุมทำให้นักธุรกิจไม่แน่ใจจะมีการชุมนุมนานแค่ไหน จึงมีผลต่อการวางแผนทำธุรกิจการสั่งซื้อและขายสินค้า การชุมนุมจึงทำให้เกิดการสะดุดในการทำธุรกิจทั้งระบบ
พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) กล่าวถึงมาตรการเตรียมความพร้อมดูแลความสงบเรียบร้อยในการนัดรวมตัวชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในวันที่ 28 พฤศจิกายน ว่า ตำรวจนครบาลได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งขั้นตอนการปฏิบัติคงทำตามที่เคยได้ปฏิบัติมาก่อนหน้านี้ ซึ่งตำรวจนครบาลมีความพร้อมในการดูแลการชุมนุม โดยใช้อุปกรณ์เพียงโล่ กระบอง และปฏิบัติตามขั้นตอนที่ระบุอย่างเคร่งครัด
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการเกณฑ์ชาวต่างด้าวเข้ามาร่วมชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า เรื่องชาวต่างด้าวได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ไปประสานและตรวจสอบยังโรงงานต่างๆ ในการตรวจสอบเรื่องนี้ ไม่เฉพาะแรงงานต่างด้าวเท่านั้นแต่รวมไปถึงคนงานทั่วไปด้วย ซึ่งหากพบว่ามีแรงงานต่างด้าวเข้ามาร่วมชุมนุมจริงจะต้องดูต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไรบ้าง
ส่วนเรื่องข่าวมีมือที่ 3 ก่อกวนการชุมนุมได้ยินว่ามี แต่ยังไม่ชัดเจน แต่ยืนยันว่าตำรวจมีหน้าที่ดูแลป้องกันอย่างเต็มที่ พร้อมฝากประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับตำรวจด้วย
พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงใกล้พิธีสวนสนามในวันเฉลิมพระชนมพรรษา หากมีการรวมตัวชุมนุมประชาชนก็จะไม่มีความสุข อีกทั้งเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวเมื่อมีการชุมนุม อาจทำให้กลับมาซบเซาอีก ซึ่งอยากให้มีการเลื่อนการชุมนุมออกไปก่อน โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เป็นผู้ประสานแกนนำ เพื่อขอเลื่อนการชุมนุมออกไป ส่วนการเข้าประชุมร่วมกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ
ที่มา ข่าวชุมนุมเสื้อแดง ข่าวการเมือง ข่าวทักษิณ จาก ประชาทรรศน์
0 comments:
แสดงความคิดเห็น