
ผู้นำฟิลิปปินส์ประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ ภายหลังเกิดเหตุกลุ่มมือปืนสังหารหมู่ผู้คนไปถึง 46 คน โดยที่ได้พบศพเพิ่มเติมจากวันแรกอีกกว่า 20 ศพ นับเป็นเหตุรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับการเมืองท้องถิ่นครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ
ประธานาธิบดีกลอเรีย มากาปากัล อาร์โรโย ผู้นำฟิลิปปินส์ วัย 62 ปี วันอังคาร(24)ประกาศภาวะฉุกเฉินในจังหวัดมากินดาเนา และพื้นที่ใกล้เคียงทางตะวันตกของเกาะมินดาเนา ซึ่งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศ พร้อมสั่งการให้กองทัพฟิลิปปินส์ส่งทหารจำนวนหลายพันคนเข้าไปควบคุมสถานการณ์ หลังเกิดเหตุกลุ่มมือปืนนับร้อยคนบุกสังหารนักการเมืองและญาติมิตร ตลอดจนผู้สื่อข่าวในท้องถิ่นอย่างน้อย 46 คน จากปัญหาความขัดแย้งของนักการเมืองผู้มีอิทธิพล 2 กลุ่ม
“ เราจะดำเนินทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อทำให้เหยื่อทั้งหมดได้รับความยุติธรรมโดยเร็ว โดยจะไม่ยอมให้มีสิ่งใดมาขัดขวางความพยายามของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจในครั้งนี้ และเราขอยืนยันว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุจะต้องได้รับโทษสูงสุดตามกฎหมาย” ผู้นำฟิลิปปินส์แถลง
ขณะเดียวกันโรนัลโด ปูโน รัฐมนตรีมหาดไทยฟิลิปปินส์ ออกมายืนยันว่า การสืบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดน่าจะเสร็จสิ้นภายในไม่กี่วันข้างหน้านี้ โดยขณะนี้ทางตำรวจมีข้อมูลสำคัญหลายประการ ทั้งข้อมูลเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลัง และข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มมือปืนที่ลงมือก่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้ ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าอาจมีถึงประมาณ 100 คน อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธที่จะตอบว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเหตุสังหารหมู่ในครั้งนี้ คือ ดาตู อันดัล อัมปาตวน นักการเมืองผู้มีอิทธิพลซึ่งเป็นคู่แข่งกับกลุ่มผู้เสียชีวิตใช่หรือไม่
ที่มา ข่าวอาชญากรรม ข่าวต่างประเทศ ข่าวฟิลิปปินส์ จาก ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ภาพข่าวจาก The Manila Times.
ประธานาธิบดีกลอเรีย มากาปากัล อาร์โรโย ผู้นำฟิลิปปินส์ วัย 62 ปี วันอังคาร(24)ประกาศภาวะฉุกเฉินในจังหวัดมากินดาเนา และพื้นที่ใกล้เคียงทางตะวันตกของเกาะมินดาเนา ซึ่งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศ พร้อมสั่งการให้กองทัพฟิลิปปินส์ส่งทหารจำนวนหลายพันคนเข้าไปควบคุมสถานการณ์ หลังเกิดเหตุกลุ่มมือปืนนับร้อยคนบุกสังหารนักการเมืองและญาติมิตร ตลอดจนผู้สื่อข่าวในท้องถิ่นอย่างน้อย 46 คน จากปัญหาความขัดแย้งของนักการเมืองผู้มีอิทธิพล 2 กลุ่ม
“ เราจะดำเนินทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อทำให้เหยื่อทั้งหมดได้รับความยุติธรรมโดยเร็ว โดยจะไม่ยอมให้มีสิ่งใดมาขัดขวางความพยายามของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจในครั้งนี้ และเราขอยืนยันว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุจะต้องได้รับโทษสูงสุดตามกฎหมาย” ผู้นำฟิลิปปินส์แถลง
ขณะเดียวกันโรนัลโด ปูโน รัฐมนตรีมหาดไทยฟิลิปปินส์ ออกมายืนยันว่า การสืบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดน่าจะเสร็จสิ้นภายในไม่กี่วันข้างหน้านี้ โดยขณะนี้ทางตำรวจมีข้อมูลสำคัญหลายประการ ทั้งข้อมูลเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลัง และข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มมือปืนที่ลงมือก่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้ ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าอาจมีถึงประมาณ 100 คน อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธที่จะตอบว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเหตุสังหารหมู่ในครั้งนี้ คือ ดาตู อันดัล อัมปาตวน นักการเมืองผู้มีอิทธิพลซึ่งเป็นคู่แข่งกับกลุ่มผู้เสียชีวิตใช่หรือไม่
ที่มา ข่าวอาชญากรรม ข่าวต่างประเทศ ข่าวฟิลิปปินส์ จาก ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ภาพข่าวจาก The Manila Times.
3 comments:
The Manila Times : Ampatuan clan will not escape investigations
President Gloria Arroyo placed parts of southern Philippines under a state of emergency on Tuesday, a day after dozens of people, including 13 journalists, were seized, killed and beheaded in Maguindanao province.
The death toll from the attack rose to 46 as of Tuesday, police said.
“We have recovered a total of 46 bodies,” Chief Supt. Leodardo Espina, also the Philippine National Police spokesman, told reporters in Manila.
He said that 24 bodies had been found, on top of the 22 recovered shortly after Monday’s massacre.
Press Secretary Cerge Remonde, during a press conference, said that the emergency proclamation covers Maguindanao, Sultan Kudarat province and Cotabato City.
President Arroyo issued the order on recommendation made by the security cluster of the entire Cabinet to prevent violence from escalating in southwestern Mindanao, Remonde explained.
“The Armed Forces of the Philippines and the Philippine National Police are hereby ordered to undertake such measures as may be allowed by the Constitution and by law to prevent and suppress all incidents of lawless violence in the aforesaid areas. The state of emergency shall remain enforced and [in] effect until lifted or withdrawn by the President,” according to the proclamation.
The Manila Times : No untouchables
Remonde said that there would be “no untouchables” during the course of the investigation of the carnage that the President also ordered conducted. Both political clans linked to the unprecedented mass murder of civilians—the Ampatuans and the Mangudadatus—are allied with the Arroyo administration.
Promising swift justice to the victims, the government, under the emergency declaration, will disarm private armies and could cancel the writ of habeas corpus.
The President also ordered acting Defense Sec. Norberto Gonzales and Lt. Gen. Rodrigo Maclang, acting military chief of staff, “to personally oversee military action against the perpetrators of these dastardly acts that occurred yesterday.”
President Arroyo said, “No effort will be spared to bring justice to the victims.”
Malacañang has instructed the military, the police, the Commission on Human Rights and the National Bureau of Investigation (NBI) to jointly investigate the incident.
Suthichaiyoon : ฟิลิปปินส์ ค้นหาศพเหยื่อสังหารหมู่ต่อไปในวันนี้ หลังตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 46 คน หวั่นอาจเกิน 50 คน ขณะที่ตำรวจระบุ หนึ่งในพันธมิตรการเมืองของประธานาธิบดีอาจพัวพันการสังหาร
แสดงความคิดเห็น